Discocactus แคคตัสสวยงาม ที่มีดอกกลิ่นหอมตลอดคืน

เมื่อพูดถึงแคคตัส หลายคนอาจจะนึกถึงไม้ประดับที่มีหนามแหลม และทนแดดได้ดี แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในโลกของแคคตัสนั้นมีสายพันธุ์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว และน่าสนใจอย่างมาก บางต้นโดดเด่นเรื่องสีสัน บ้างต้นโดดเด่นเรื่องของสายพันธุ์ บางต้นโดดเด่นเรื่องของ ดอก และเชื่อหรือไม่ครับว่าบางต้นเองก็โดดเด่นเรื่องของกลิ่นอีกด้วย วันนี้ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ดิสโก้แคคตัส (Discocactus) ซึ่งเป็นแคคตัสที่มีรูปร่างเหมือนลูกดิสโก้ มีสีสันสวยงาม อาจเรียกได้ว่าเป็นต้นไม้หลากสีก็ว่าได้ ตลอดลำต้นจะเต็มไปด้วยก้อนปุยสีขาวซึ่งคือหนามขนาดเล็กที่ขึ้นเรียงกันเสมือนกับว่าเป็นต้นไม้สวยงามเลยทีเดียว และวันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับต้นไม้สายพันธุ์นี้กันครับว่ามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง และผู้เลี้ยงอย่างเราถ้าจะเลี้ยงต้นไม้สายพันธุ์นี้จะสามารถเลี้ยงได้หรือไม่ใน Discocactus แคคตัสสวยงาม ที่มีดอกกลิ่นหอมตลอดคืน ถิ่นกำเนิด และจุดเห็นเห็นที่แรก ต้น ดิสโก้แคคตัส (Discocactus) เป็นพืชลักษณะทรงกลมเตี้ย มีชื่อมาจากภาษากรีกโบราณ diskos ซึ่งหมายถึงจาน เนื่องจากลักษณะรูปร่างของต้น ต้น ดิสโก้แคคตัส เป็นพืชเฉพาะที่พบได้ในประเทศบราซิลใต้ โบลิเวียตะวันออก และประเทศปารากวัยเหนือ พันธุ์พืชเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในธรรมชาติต้นดิสโก้แคคตัส มีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะและที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกันไป บางพันธุ์มีหนามที่หนาปกคลุมคลุมลำต้นเต็มไปหมด เช่น Discocactus zehntneri subs. boomianus บางพันธุ์ไม่มีหนามเลย เช่น Discocactus horstii ดังนั้นแล้วเราจะเห็นได้ว่าต้นไม้เหล่านี้เป็นต้นไม้ที่มีความพิเศษในตัวเองสูงมาก และมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแคคตัสหลายสายพันธุ์ที่มาจากประเทศบลาซิลเลยครับ สภาพอากาศที่เหมาะสมกับต้นไม้และการดูแลให้เจริญเติบโต ต้นดิสโก้แคคตัสสามารถอยู่ได้ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง เหมาะกับการปลูกระบบไฮโดรโปรนิกส์ […]
โรคในต้นแคคตัสที่มาในหน้าฝนที่คุณควรรู้

เรื่องของโรคกับต้นไม้เป็นเรื่องใกล้ตัวครับ คนมักจะรู้กันดีว่าแคคตัสเป็นหนึ่งในต้นไม้ขึ้นชื่อที่ทนต่อสิ่งต่างๆมากมาย และสิ่งสำคัญคือต้นไม้สายพันธุ์นี้ จะจะอยู่ได้แม้ไม่ได้สารอาหารอย่างน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งนั่นเป็นจุดเด่นและเป็นเสน่ห์ของแคคตัส แต่ก็มีบางสิ่งครับที่มักจะทำให้ต้นไม้สายพันธุ์นี้ตายลงได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน ทั้งเรื่องของแสงแดด เรื่องของดิน และเรื่องความชื้นที่มีอยู่ในอากาศทั่วไป แน่นอนว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็นความชื้นที่อยู่ภายในบินหรืออยู่บริเวณรากที่เราคุ้นเคยกันดีกับอาการรากเน่า แต่สิ่งจะมาจากธรรมชาติเลยและมักจะเกิดบ่อยมากในฤดูฝน วันนี้เราจะมาดูกันครับว่าโรคร้ายต่างๆที่เกิดกับต้นไม้ของเรามีโรคอะไรบ้างที่เราต้องระวัง ที่มากับหน้าฝน โรคเหล่านี้อันตรายยังไง โรคเหล่านี้น่ากลัวอย่างไร ไปดูงานครับในบทความนี้กับ โรคในต้นแคคตัสที่มาในหน้าฝนที่คุณควรรู้ – โรคเหี่ยวเฉา (wilt disease) อาการของโรคเหี่ยวเฉาในต้นแคคตัส จะสังเกตได้จากการที่ใบของต้นแคคตัสมีสีเหลือง ไม่มีชีวิตชีวา เหี่ยวลง โคนของต้นแคคตัสจะมีลักษณะฉ่ำน้ำ สีดำ เมื่อผ่าลำต้นจะพบว่าเนื้อไม้อ่อน เป็นรูๆ มีเมือกขุ่นไหลออกมา เมื่อโรครุนแรงขึ้น ต้นแคคตัสจะแห้งตายไปทั้งต้น การป้องกันและรักษาโรคเหี่ยวเฉาในต้นแคคตัส สิ่งที่ผู้ปลูกต้องให้ความสำคัญ คือการดูแลการรดน้ำให้อย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ระบบรากของต้นแคคตัสได้รับการกระทบกระเทือนจากการได้รับน้ำมากเกินไป การรดน้ำให้อย่างถูกวิธี จะขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล ช่วงที่ไม่มีการตกฝน – โรคราน้ำค้าง (powdery mildew) โรคราน้ำค้างในต้นแคคตัสหน้าฝน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราที่ชอบสภาพอากาศชื้น ๆ และอุณหภูมิต่ำ โดยเชื้อราจะเข้าทำลายบริเวณผิวของต้นแคคตัส ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาล หรือสีเหลือง และมีเม็ดสีขาว หรือสีแดงอยู่บนผิว ถ้าไม่รักษาโรคจะลุกลามไปทั่วต้น และอาจทำให้ต้นแคคตัสตายได้ ซึ่งเรามักจะพบเห็นโรคนี้ในช่วงหน้าฝนเป็นประจำ […]
เทคนิคดีๆ ที่ฟาร์มแคคตัสใช้เพื่อให้ต้นไม้โตอย่างสวยงาม

แคคตัสเป็นต้นไม้ที่มีความหลากหลายในรูปร่าง สี และลักษณะ มีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้อย่างดี แต่ไม่ได้หมายความว่าการเลี้ยงแคคตัสจะง่ายเหมือนที่คิด เพราะแคคตัสก็มีความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิด ถ้าไม่รู้จักเทคนิคการดูแลที่ถูกต้อง อาจทำให้แคคตัสเหี่ยว เป็นโรค หรือตายได้ ในบทความนี้ เราจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับเทคนิคการเลี้ยงแคคตัสที่น่าสนใจที่ฟาร์มส่วนใหญ่ใช้ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้ และเป็นแนวทางในการดูแลแคคตัสของตัวเองได้อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกระถาง ดิน ปุ๋ย การให้น้ำ การตัดแต่ง การป้องกันโรคและแมลง ฯลฯ ถ้าคุณชื่นชอบและอยากรู้วิธีที่จะทำให้แคคตัสของคุณสวย และดูดีจนสามารถสร้างรายได้แบบฟาร์มใหญ่ๆในประเทศได้ ตามผมไปดูกันดีกว่าครับใน เทคนิคดีๆ ที่ฟาร์มแคคตัสใช้เพื่อให้ต้นไม้โตอย่างสวยงาม ฟาร์มใหญ่ดูแลต้นไม้จำนวนมากได้อย่างไร ? ต้นแคคตัสเป็นพืชที่มีลักษณะเฉพาะตัว และมีความโดดเด่นมาก อีกทั้งยังเป็นต้นไม่ที่ปลูกเลี้ยงได้ง่าย ดังนั้นหลายๆ คนจึงนิยมนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อประดับบ้านหรือสวน หรือเพื่อขยายพันธุ์เพื่อสร้างอาชีพ ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการจัดสถานที่ในการปลูกต้นแคคตัสในฟาร์มขนาดใหญ่ และการประยุกต์ใช้สำหรับการปลูกแคคตัสในรูปแบบทั่วไป ว่าทำอย่างไรถึงเลี้ยงจำนวนมากขาดนี้ได้ สิ่งสำคัญคือเรื่องของการจัดวางระบบและการวางตำแหน่งที่ใช้ในการปลูกครับ คุณไม่จำเป็นเลยที่จะต้องปลูกในพื้นที่ที่ไม้ขนาดใหญ่หากเป็นบ้านทั่วไปคุณสามารถปลูกจุดใดก็ได้แม้ว่าจะเป็นบริเวณลานทางเดินกว้าง คุณสามารถเลือกที่จะใช้ชั้นลอยติดบริเวณรอบข้างของกำแพงบ้านหรือผนังบ้านก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วเราจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าการเลี้ยงต้นไม้จำนวนมากไม่ได้อยู่ที่สถานที่อย่างเดียว พี่กานต์ประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆรอบตัว ผมเคยเห็นบางบ้านใช้การแขวนเป็น หนึ่งในวิธีในการเพิ่มปริมาณต้นไม้ในพื้นที่จำกัด แล้วก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อยเลยครับ บำรุงดินอย่างไรให้ต้นสวย การบำรุงดินต้นแคคตัสเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ต้นแคคตัสของคุณสมบูรณ์แข็งแรง และมีลักษณะที่สวยงาม ดูดี เป็นประโยชน์ทั้งต่อการขาย และการเลี้ยงไว้ประดับสวยงาม ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกต้นแคคตัสคือดินที่ระบายน้ำได้ดี ไม่อุ้มน้ำ ไม่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป […]
ส่องอาการยอดแห้ง อาการสุดฮิตที่เกิดกับต้นแคคตัส

รู้หรือไม่ครับว่าโรคร้ายในต้นแคคตัส ที่มักจะสร้างความปวดหัวและน่ารำคาญใจให้กับผู้เลี้ยงอย่างเราอยู่เสมอ โดยโรคเหล่านี้มักจะเกิดจากเชื้อราแมลงหรือศัตรูพืช แต่โรคที่เราจะพูดถึงในวันนี้เป็นกลุ่มที่ไม่มีต้นตอสาเหตุที่ชัดเจน หรืออาจจะต้องบอกว่าระบุสาเหตุไม่ได้ซึ่งถ้าเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่ทำได้คือการยอมจำนนและปล่อยให้ต้นไม้ต้นนั้นตายลงอย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้เองสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำมากที่สุดคือการสังเกตต้นไม้ให้ดีครับ ไม่ว่าจะเกิดอาการผิดปกติอย่างไรก็ตามถ้าต้นไม่หยุดชะงักการเติบโต หรือมีสภาพผิดปกติภายนอกให้เราเห็นให้เราเดาได้เลยว่าต้นไม้เหล่านี้ กำลังเข้าสู่วิกฤติอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพูดถึงอาการยอดแห้งในต้นแคคตัส ซึ่งถือเป็น หนึ่ง ในอาการที่หาได้ยากและเมื่อเกิดขึ้นแล้วแทบจะหาต้นตอของปัญหาไม่ได้เลยครับ วันนี้ผมเลยจะนำเรื่องราวเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้ดูกัน มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ และมีอะไรบ้างที่คุณควรรู้ เราจะพาทุกคนไปดูกันครับใน ส่องอาการยอดแห้ง อาการสุดฮิตที่เกิดกับต้นแคคตัส ลักษณะภายนอกของอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด เมื่อเกิดอาการรากแห้งกับต้นแคคตัส สิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องทำมากที่สุดคือการตรวจเช็คทุกองค์ประกอบและทุกส่วนของลำต้น จุดแรกที่เราจะต้องมองให้เห็นคือบริเวณปลายหนามโดยยอดของหนาม ที่จะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และขยายมาเรื่อยๆในขณะที่เชื้อโรคกำลังแพร่กระจายจนเข้าสู่บริเวณของลำต้น จากนั้นเชื้อโรคแบบนี้ก็จะแพร่กระจายตัวจากบริเวณส่วนปลายของลำต้นออกเป็นวงกลมขนาดใหญ่และกินพื้นที่ สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ในระยะเวลานาน นั่นทำให้เราไม่มีทางรู้เลยว่าต้นไม้กำลังเกิดอาการอะไรแต่อาการต่อไปที่เราต้องระวังและเมื่อเกิดขึ้นแล้วคุณจะทำอะไรไม่ได้เลยนั่นคือการลามเข้าสู่แกนกลางของลำต้นด้านใน ตลอดการแพร่กระจายพันธุ์หรืออาการเราจะไม่สังเกตเห็นถึงรอยยุ่ย การเปียกน้ำ อาการชื้นของต้นไม้เลย สิ่งที่เราจะ สามารถสังเกตได้คือเรื่องของการแห้งตายลงไปอย่างช้าๆของต้นไม้ แล้วต้องบอกตรงนี้แล้วว่าเมื่อเกิดอาการนี้แล้วน้อยคนมากครับที่จะสังเกตและรู้วิธีรับมือ ส่วนใหญ่รู้ตัวอีกทีคือต้นไม้โดนกินไปแล้วกว่าครึ่งต้นและไม่สามารถยื้อชีวิตของต้นไม้ไว้ได้ ทำไมถึงระบุที่มาของโรคนี้ไม่ได้ หลายคนอาจจะสงสัยในตอนต้นที่เราบอกกันว่าต้นไม้สายพันธุ์นี้ไม่สามารถระบุที่มาหรือการแพร่กระจายขยายพันธุ์ของเชื้อโรคได้ เคยมีคนตั้งข้อสังเกตและพยายามน้ำศาลต่างๆลุยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เกาะอยู่บริเวณต้นไม้ไปวิเคราะห์ ก็ไม่พบเห็นถึงสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ทุกสิ่งล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กปกติที่อยู่ในต้นไม้ทุกต้น จึงทำให้นักวิจัยหลายคนงงกับเรื่องนี้อย่างมาก และต่อด้วยการวิเคราะห์กลุ่มของศัตรูพืชรวมถึงแมลงต่างๆ ก็ยังคงไม่ สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือโรคนี้อันตรายอย่างมาก จนหลายคนตั้งชื่อให้เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาเลย และการที่ยังค้นหาต้นตอและที่มาของโรคนี้ไม่เจอ นั่นหมายความว่าเรายังไม่เจอวิธีรักษาแบบหายขาดนั่นเองครับ แต่อัตราในการเกิดโรคนี้ก็ถือว่าน้อยมากเช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่สนใจและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิจัยในการค้นหาต่อไปนั่นเอง การดูแลรักษาเมื่อติดโรค สุดท้ายปลายทางของโรคนี้สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษา ทำอย่างไรให้ต้นไม้ของเรานั้นสามารถอยู่รอดได้และไม่เกิดอันตรายไปมากกว่านี้ ถ้าเราสังเกตให้ดีบริเวณของลำต้นจะมีความพิเศษในเรื่องของ อาการที่ค่อนข้างแนบเนียนและสังเกตไม่ได้เลยด้วยตาเปล่า […]
วิธีการป้องกัน และกำจัดศัตรูพืชในต้นแคคตัส

รู้หรือไม่ครับว่าวิธีการจัดการกับปัญหาศัตรูพืชเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และไม่ควรมองข้ามเลย เพราะปัญหาเหล่านี้ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงต้นไม้ในทุกประเภท และทุกชนิด การที่คุณจะหลีกหนีได้ คุณจะต้องมีความรู้ และจัดตั้งพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในพื้นที่และบริเวณที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้เลยครับว่า จะปลอดภัยจริงๆ การใช้วิธีดังกล่าวอาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเองก็จะส่งผลให้ เราไม่สามารถดูแลต้นไม้ของเราได้เลยนั่นเอง ปลายทางสุดท้ายอาจนำไปสู่การตายลงเนื่องจากการขาดสารอาหาร หรือผลข้างเคียงที่มาจากศัตรูพืช โดยเฉพาะกับต้นแคคตัสอาจเป็นต้นไม้ที่พิเศษกว่าต้นชนิดอื่นๆ เพราะด้วยราคาที่สูงมากกว่า ก็อาจทำให้ต้นสายพันธุ์นี้ต้องถูกดูแลอย่างเป็นพิเศษมากขึ้นครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันอีกเรื่องของการดูแลแคคตัสว่าเราจะทำอย่างไรให้สามารถดูแลต้นไม้ของเราได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุดในรีวิว วิธีการป้องกัน และกำจัดศัตรูพืชในต้นแคคตัส สังเกต และตรวจสอบสภาพข้อต้นไม้ภายนอกทุกสัปดาห์ การสังเกตเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้เงิน หรือต้นทุนอะไรเลย เราจะเสียเพียงแค่ต้นทุนเดียวนั่นคือต้นทุนของเวลาครับ ต้นทุนของเวลาถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการจัดการงานในส่วนนี้ แต่หากมองให้ดีในทุกวัน คนที่เลี้ยงต้นแคคตัส เราก็มักจะใช้เวลาอยู่กับต้นไม้อยู่เป็นประจำ ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งจุดที่จะทำให้ต้นไม้ของคุณรอดพ้นจากการถูกศัตรูพืชเข้าเล่นงานได้นั่นเอง ลองคิดเล่นๆ เราอยากขอแนะนำนอกจากการมองดูต้นไม้เพื่อความสงบของจิตใจแล้ว คุณอาจลองเข้าไปสังเกตต้นไม้ใกล้ๆ เพื่อดูลักษณะรอบตัวของลำต้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากมีความผิดปกติ ก็จะทำให้เราสามารถหาวิธีจัดการ และป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามได้เช่นกัน การตรวจสอบและการสังเกตจึงถือเป็นหนึ่งในวิธีแรกที่เราควรรู้จัก เพื่อป้องกันความเสี่ยงนั่นเอง ศัตรูพืชแต่ละตัว แข็งแรงในฤดูกาลที่แตกต่างกัน เชื่อไหมครับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปลูกต้นไม้และ ต้นแคคตัสของเรานั้นกำลังเติบโตแข็งแรง เราจะเริ่มเจอปัญหากับลำต้นไม่ว่าจะเป็นอาการรากเน่า อาการจากแมลง ไร หรือเชื้อรา สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เรานั้นจะต้องเจอครับ การพอเจอกับรูปแบบของเชื้อเหล่านี้มักจะมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปครับ แคคตัสจะมีลักษณะพิเศษที่อาจจะเป็นที่ต้องคำนึงถึงในหลายจุดโดยเฉพาะเรื่องของสภาพอากาศและเรื่องของความชื้น อย่างที่เราเคยรู้กันมาพื้นฐานของแคคตัสคือต้นไม้ที่มีความแข็งแรงสูงมาก และเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เรียกได้ว่ามีความพิเศษอย่างมากต่อสภาพอากาศหน้าร้อน เพราะถิ่นกำเนิดของแคคตัสกว่า 60 […]
เคล็ดไม่ลับในการปลูกแคคตัสที่คุณอาจไม่เคยรู้

การปลูกต้นไม้ไม่ใช่เพียงแค่การนำต้นไม้ใส่ลงในกระถาง แล้วนำดินกลบทับลงไป แต่กลับมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดอีกมากมายเลยครับ เรื่องในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับ เกี่ยวกับการปลูกต้นแคคตัส คุณอาจไม่รู้ว่าแคคตัสมีวิธีการปลูกที่เรียบง่ายและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างมาก ในการดูแล ซึ่งนั่นหมายถึงความไม่ยากเกินไปสำหรับการปลูกต้นไม้สายพันธุ์นี้ การดูแลเบื้องต้นคือสิ่งที่หลายคนต้องทำความเข้าใจ ตั้งแต่ในเรื่องของการวางแผนปลูกต้นไม้ การเลือกสายพันธุ์ไปจนถึงการดูแลรักษาต้นไม้ให้เติบโตได้อย่างดี ซึ่งวันนี้ผมมีเคล็ดลับในการดูแลต้นไม้หนามพวกนี้มาฝากกันอีกแล้วครับ ซึ่งเนื้อหาในวันนี้จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิธีการดูแลเป็นหลัก ดังนั้นแล้วใครที่อยากทำให้การเลี้ยงและการดูแลต้นแคคตัสง่ายยิ่งขึ้น ห้ามพลาดเรื่องราวที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ได้เลยครับในบทความ เคล็ดไม่ลับในการปลูกแคคตัสที่คุณอาจไม่เคยรู้ เรื่องของน้ำ คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำคือสารอาหารที่สำคัญที่เป็นสิ่งที่ทำให้ต้นไม้ทุกต้นเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนครับว่า ต้นไม้แต่ละต้นมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป อย่างต้นไม้ที่เราจะพูดถึงวันนี้คือแคคตัส หนึ่งในไม้ที่มีถิ่นกำเนิดของสายพันธุ์มาจากทะเลทรายสุดแสนจะแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต การที่จำกัดความต้องการน้ำไว้ จึงเป็นเรื่องที่แคคตัสนั้นต้องทำ และนั่นคือการวิวัฒนาการของต้นไม้ที่ตัดกิ่ง และใบออก เหลือเพียงแค่หนามที่ไม่ได้ต้องการการเจริญเติบโตจากสารอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนของรากที่ปรับเปลี่ยนการรับน้ำลง ให้น้ำในปริมาณที่น้อยลง เรื่องของน้ำจึงเป็นตัวเด่น และตัวสำคัญในการทำงานของราก ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้นทำให้การรดน้ำแคคตัส ต้องมีการจำกัดปริมาณหากรดน้ำมากไป จะทำให้ต้นไม้ตายได้นั่นเอง เรื่องของแสง เรื่องแสงถือได้ว่าสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในการเลี้ยงต้นแคคตัส เพราะเป็นต้นไม้ที่ต้องการ การดูแลที่สูงอย่างมาก การดูแลถือได้ว่าเป็นการเลี้ยงต้นไม้ที่อาจแตกต่างจากต้นปกติทั่วไป เพราะนอกจากจะไม่ชอบน้ำแล้ว ยังชื่นชอบแสงแดด ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่อันตรายต่อต้นไม้ เพราะการอยู่ต่อแสงในระยะเวลาที่มากเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้ต้นไม้ของเรานั้นเกิดการไหม้จากแดดที่ร้อนแรงได้นั่นเอง แต่สำหรับแคคตัส อาจจะต้องบอกว่าสามารถอยู่ในที่ร้อน และพื้นที่มีอุณหภูมิสูงได้ดีเลยครับ เพราะโดยปกติแล้ว แคคตัสจะต้องการแสงที่ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และนั่นก็ทำให้ต้นไม้ของเราสามารถอยู่ได้แทบจะในทุกพื้นที่ของประเทศไทย […]
ไรแดง ศัตรูพืชตัวร้ายที่จ้องทำลายและดูดกินลำต้น

คุณเคยเห็นแคคตัสป่วยมากี่รูปแบบกันบ้างครับ แคคตัสที่ป่วยสิ่งสำคัญคือการดูแลรักษา เราจะต้องรู้ว่าแคคตัสของเรานั้นเป็นอย่างไร รูปร่าง และลักษณะของแคคตัสมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากเราสังเกตให้ดี ก็อาจจะทำให้การป้องกันเกิดขึ้นได้ดีมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ครับว่าไม่ใช่ทุกโรคและไม่ใช่มาผิดปกติที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนบางโรคหรือบางความผิดปกติอาจจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ที่คุณจะต้องรู้เลย คือเรื่องของประเภทและรูปแบบลักษณะอาการของโรคแต่ละชนิด ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดู หนึ่ง ในโรคที่เรียกได้ว่าเป็นโรคที่รักษายากและสังเกตได้ยาก กับอาการไรแดงที่ขึ้นอยู่บริเวณลำต้น อะไรคือ หนึ่ง ในศัตรูพืชที่น่ากลัวและเป็นศัตรูพืชที่อาจทำให้ต้นไม้ของเราขาดสารอาหารลงได้ในทันที แต่แน่นอนครับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรานั้นเข้าใจในรูปแบบการจัดการและการดูแล ก็จะทำให้เรานั้นสามารถดูแลต้นไม้ได้แบบไม่มีจุดติดขัดใดๆเช่นเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่องของไรแดง ศัตรูพืชที่น่ากลัวเป็นเสมือนแวมไพร์ที่พร้อมจะดูดกลืนเลือดเนื้อของต้นแคคตัส ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูรายละเอียดบทความนี้กันดีกว่าครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างใน ไรแดง ศัตรูพืชตัวร้ายที่จ้องทำลายและดูดกินลำต้น ลักษณะอาการของต้นไม้ที่ถูกไรแดงดูดสารอาหาร ไรแดงถือเป็นหนึ่งในศัตรูพืชที่มีความน่ากลัวอย่างมาก และไรแดงมักจะขึ้นเกาะติดกับต้นไม้ที่มีสารอาหารในลำต้นสูง ไรแดงจึงเป็นหนึ่งในศัตรูพืชที่น่ากลัวมากและเราอาจไม่สังเกตเห็นเลยในช่วงแรก จนกว่าจะแสดงอาการแปลกประหลาดออกมาและอาการแปลกประหลาดดังกล่าวในช่วงแรกก็ไม่สามารถสังเกตได้เห็นอีกเช่นกันหากคุณไม่ใช่คนที่สังเกตอาการพืชแบบจริงจัง เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวอ่อนของไรแดงเข้าไปก็และแพร่กระจายพันธุ์เป็นจำนวนมาก ตัวอ่อนเหล่านี้ก็จะเข้าไปฝังตัวและดูดกลืนสารอาหารหรือน้ำเลี้ยงที่อยู่ในลำต้น ซึ่งส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเกิดอาการปูดบวมขึ้นมา และการปูดบวมเหล่านี้ก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะเป็นอาการปวดบวมหรือเป็นตุ่มที่มีลักษณะเล็กมาก เราจะสังเกตเห็นได้ก็ต่อเมื่อลำต้นเริ่มมีอาการเหี่ยวเฉาลง จากนั้นตัวของลำต้นเริ่มเปลี่ยนจากสีสดกลายเป็นสีซีด ซึ่งอาจมีลักษณะของการเน่าเปื่อยเกิดขึ้นในบางจุด ซึ่งจังหวะนี้เองเราจะสังเกตเห็นจุดดำขึ้นบริเวณลำต้นได้แต่นั่นก็สายไปเสียแล้วครับเพราะไรแดงได้จัดการต้นไม้ของคุณจนไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว ความน่ากลัวของไรแดงคือไม่สามารถกำจัดได้หมด ไรแดงเป็น หนึ่ง ในศัตรูเพื่อที่น่ากลัวอย่างมากด้วยชื่อเสียงของไร้แดงที่บอกได้คำเดียวเลยว่า บนต้นไม้ต้นไม้ก็ตามผู้เลี้ยงจะต้องเกิดความเครียดขึ้นแน่นอน เพราะการขยายจำนวนที่รวดเร็ว และอัตราการดูดกลืนสารอาหารที่จะแตกต่างกันออกไปตามความแข็งแรงของสายพันธุ์ ก็ทำให้ผู้เลี้ยงอย่างเราเห็นต้นไม้มีลักษณะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สิ่งที่เราจะเห็นได้อีกสิ่งหนึ่ง จะเป็นเรื่องของจำนวนที่ขึ้นและกระจายอยู่บนต้นไม้ หากมองให้ดีใรแดงจะมีขนาดที่เล็กมากจนไม่สามารถที่จะจัดการได้ด้วยการหยิบออก แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็สามารถจัดการได้ด้วยการใช้ยา แน่นอนครับว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะสังเกตเห็น แต่ก็ต้องบอกกันตามตรงครับว่าบุญรักษาตั้งแต่ช่วงที่ต้นไม้กำลังโดนจู่โจม ก็อาจจะกูสถานการณ์ให้ต้นไม้ของคุณรอดชีวิตกลับมาได้เช่นเดียวกัน การดูแลรักษาและป้องกัน สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนจำไว้ในการเลี้ยงแคคตัส สิ่งใดก็ตามที่เป็นลักษณะของปรสิต […]
โรงเรือนสำเร็จรูปแบบน๊อคดาวน์ ดี เสียอย่างไร

สำหรับใครที่เป็นมืออาชีพที่อยากสะสมแคดตัสเป็นเรื่องเป็นราว หรืออยากจะทำการปลูกแคสตัสเพื่อให้เกิดธุรกรรมหรือเป็นธุรกิจภายในครอบครัวหรือต้องการจะส่งออก สิ่งแรกที่คุณจะหาเลยก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการหาโรงเรือนเข้ามาใช้ในการเก็บรักษาต้นไม้ของเราใช่ไหมครับ แน่นอนว่าเรื่องของโรงเรือนรูปแบบต่างๆเราเคยพูดถึงกันไปหมดแล้วในเว็บไซต์ของเรา และการมาครั้งนี้เองอยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับโรงเรือนอีกหนึ่งประเภทที่ผมรู้สึกว่าเหมาะสำหรับใครก็ตามที่ชอบความสะดวกสบายและความง่ายอยากเอาเวลาทั้งหมดไปโฟกัสกับการเลี้ยงแคตตัสมากกว่าการปล่อยให้ต้นไม้เฉาตายเพียงเพราะเลือกโรงเรือน และวันนี้เราจะมาพูดถึงโรงเรือนอีกหนึ่งประเภทที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินและไม่คิดว่ามีอยู่บนโลกใบนี้นั่นคือโรงเรือนสำเร็จรูปน็อคดาวน์ ถ้าคุณเคยเห็นบ้านที่ถูกประกอบขึ้นมาจากไม้เป็นหลังและถูกขนย้ายจากสถานที่หนึ่งไปสถานที่หนึ่งเพื่อตั้งไว้ในจุดต่างๆบ้านแบบนี้เราเรียกว่าบ้านน็อคดาวน์ โรงเรียนก็มีลักษณะเดียวกันครับมันคือรูปแบบของโรงเรือนที่สามารถเคลื่อนย้ายได้แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะโรงงานน็อคดาวน์ในปัจจุบันก็มีหลากหลายแบบมากเช่นเดียวกันซึ่งวันนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องของประเภทโรงเรือนครับแต่เราจะมาพูดถึงข้อดีและข้อเสียของโรงเรือนเหล่านี้กันว่าถ้าเป็นโรงเรือนแบบน็อคดาวน์ที่มาแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งานจะดีหรือไม่ดีอย่างไร และมีอะไรบ้างที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจใช้โรงเรือนลักษณะนี้วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้วครับ และถ้าคุณคือคนที่กำลังเริ่มจะเลี้ยงแคตตัส หรือกำลังหาโรงเรือนสำเร็จรูปดีๆ อยากได้ข้อมูลในการพิจารณาห้ามพลาดบทความนี้เลยครับใน โรงเรือนสำเร็จรูปแบบน๊อคดาวน์ ดี เสียอย่างไร ระยะเวลาในการปลูกสร้างค่อนข้างเร็ว โรงเรือนหากพูดกันตามหลักมันเหมือนกับบ้านหนึ่งหลังที่ต้องมีการปักเสาต่างๆลงดินหรือแม้แต่การเทปูนซึ่งแน่นอนครับว่าระยะเวลาเหล่านี้เองก็เป็นต้นทุนบางอย่างเช่นเดียวกัน เพราะบางคนไม่อยากจะเสียต้นทุนเวลาเหล่านี้ ทำให้การปลูกต้นไม้นั้นเสียเวลาไปอีก เรารู้กันดีอยู่แล้วครับว่าโรงเรือนประเภทสำเร็จรูปแบบน็อคดาวน์นั่นเป็นโรงงานที่เกิดมาเพื่อให้คุณสะดวกสบายในการทำงานและการเลี้ยงต้นไม้ ซึ่งโรงเรือนเหล่านี้เองจะถูกออกแบบมาเป็นรูปแบบเฉพาะอยู่แล้ว แม้ลักษณะจะไม่ได้เหมือนบ้านน็อคดาวน์ที่ประกอบเสร็จแล้วยกลงมาตั้ง แต่ทุกอย่างจะถูกเซ็ตไว้ ที่เหลือแค่นำมาประกอบใส่กันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ โดยปกติโรงเรือนหนึ่งหลังจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งวันในการประกอบเป็นรูปร่างและพร้อมใช้งาน แต่บางทีก็ใช้เวลามากกว่านั้นซึ่งมากสุดประมาณหนึ่งวันกับอีกครึ่งวันของวันถัดไป ซึ่งส่วนนี้เองอาจเกิดจากความต้องการในการเทปูนวางพื้นซึ่งก็จะทำให้ใช้เวลามากกว่าปกติไปอีกนั่นเองครับ ดังนั้นหากใครที่ชอบความรวดเร็วการมีโรงเรือนสำเร็จรูปแบบนี้ถือว่าตอบโจทย์แน่นอน สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามการใช้วัสดุ แดดในประเทศไทยเรียกได้ว่ารุนแรงอย่างมากครับแล้วมันเป็นเรื่องยากมากเลยที่เรานั้นจะหาวิธีในการจัดการกับแดดและต้นไม้ของเราพร้อมกัน เพราะอย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่าคนที่อ่านบทความนี้แน่นอนต้องปลูกต้นไม้ไม่ต่ำกว่าห้าสิบต้น การที่คุณจะย้ายสิ่งต่างๆเข้าออกคงเป็นเรื่องที่ยากและไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นคุณควรมีโรงเรือนและเก็บต้นไม้เหล่านี้ โดยโรงเรือนนั้นหากสังเกตดีๆด้านบนจะเป็นหลังคาซึ่งหลังคาส่วนนี้จะใช้วัสดุแตกต่างกันในการปกป้องไม่ให้น้ำหรือแดดเข้ามาและวัสดุเหล่านั้นเองก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันบางตัวสามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อนได้เป็นอย่างดี บางตัวสามารถกันฝนและไม่ทำให้วัสดุขาดเมื่อเจอน้ำและแดดเป็นเวลานาน ซึ่งมันส่งผลดีอย่างมากเพราะเราไม่ต้องย้ายวัสดุอุปกรณ์หรือต้นไม้ของเราไปไหนเลยเราแค่ตั้งไว้ตรงนั้นที่โรงเรือนจะดูแลรักษาต้นไม้ของเราให้เอง ทุกอย่างสำเร็จรูปเปลี่ยนได้ง่ายๆด้วยตัวคุณเอง อย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่าโรงเรือนนั้นถูกยกมาประกอบในสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้การประกอบคือการนำข้อต่อส่วนต่างๆมาใส่ข้อด้วยกัน แน่นอนครับว่าเรารู้กันอยู่แล้วในเรื่องของความแข็งแรงด้วยความเป็นเหล็กย่อมแข็งแรงและทนทาน แต่อย่างไรก็ตามครับ ทุกอย่างมีอายุและพร้อมที่จะพังทลายลงมาเสมอ เราจึงต้องคอยตรวจเช็คและดูเหล็กต่างๆให้ดี หากเกิดการชำรุดหรือเสียหายจะได้ป้องกันทันและลดความเสียหายที่อาจเกิดกับต้นไม้มูลค่าสูงได้ ข้อดีของโรงเรือนแบบน็อคดาวน์สำเร็จรูปที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรานั้นสามารถเปลี่ยนรูปแบบของโครงสร้างได้ อย่างกรณีที่มีเหล็กบางชิ้นแตกหักหรือเกิดอุบัติเหตุ เราสามารถที่จะซื้อชิ้นนั้นมาเปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ได้ โดยไม่ต้องรื้อโครงสร้างใหม่ทั้งหมด แต่ข้อเสียที่ตามมาคือถ้าวัสดุไม่แข็งแรงมากพอคุณก็จะเสียเงินในการซ่อมบำรุงหลายครั้งเช่นเดียวกัน เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ โรงเรือนสำเร็จรูปแบบน๊อคดาวน์ ดี เสียอย่างไร ที่ผมได้นำมาฝากกันในวันนี้ […]
3 วิธีเลี้ยงแคคตัสให้สวย สุขทั้งใจแถมสร้างรายได้ให้คุณอีกด้วย

การเลี้ยงต้นไม้หลักการง่ายๆที่ทุกคนหวังให้เป็นเหมือนกันในการเลี้ยงต้นไม้สักต้นหนึ่งคือเรื่องของความสวยงามแน่นอนครับ ความสวยงามคือการเติบโตที่บ่งบอกถึงคุณภาพและความใส่ใจของผู้เลี้ยงความสวยงามของต้นไม้มันไม่ได้เกิดมาจากเพียงแค่พันธุกรรมที่เกิดขึ้นแต่ความใส่ใจของผู้เลี้ยงก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ต้นไม้นั้นสวยงามและเป็นที่น่าสนใจในกลุ่มของคนเลี้ยงต้นไม้ด้วยกันเอง และยิ่งเป็นแคสตัสด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องยากเลยครับที่จะดูแลให้สวยงามเพราะเราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าต้นไม้สายพันธุ์นี้เราเองไม่ได้สามารถที่จะควบคุมสิ่งต่างๆได้มากขนาดนั้น โดยเฉพาะกับลักษณะของลำต้นที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์หรือแม้แต่ในฝักเดียวกันก็ยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างลักษณะให้ไม่เหมือนกันได้ ซึ่งมันเป็นเสน่ห์ของต้นไม้เหล่านี้ครับ แต่อย่างไรก็ตามก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกต้นสามารถทำให้สวยงามได้อยู่ที่การเลี้ยงของเราที่เป็นผู้เลี้ยง ฉะนั้นแล้ววันนี้ผมจะมาพาทุกคนไปดูหลักการเลี้ยงแคคตัสให้สวย ว่าจะมีวิธีไหนบ้างทีเหล่ามือโปรใช้กันเลี้ยงอย่างไรให้ต้นแข็งแรง เลี้ยงอย่างไรให้ไม่เกิดโรค และอีกหลากหลายวิธีที่เรามานำเสนอให้คุณในวันนี้กับบทความ 3 วิธีเลี้ยงแคคตัสให้สวย สุขทั้งใจแถมสร้างรายได้ให้คุณอีกด้วย คุณต้องมีโรงเรือนที่เหมาะสมในการปลูกแคสตัส สิ่งแรกที่ต้องมีครับถ้าคุณต้องการให้ต้นไม้สวยคือโรงเรือน เชื่อว่าหลายคนยังคงเข้าใจผิดว่าโรงเรือนคือการสร้างสถานที่นึงขึ้นมาเพื่อเก็บแคตตัสให้พ้นจากแดดลมฝนในความอันตรายต่างๆ ซึ่งนั่นไม่ได้ผิดแต่มันถูกแค่ส่วนเดียวในความเป็นจริงแล้วแคตตัสต้องการแดดมากและต้องการการระบายอากาศที่สูงฉะนั้นแดดรับลมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะแดดในช่วงเช้าเป็นช่วงที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษเพราะแต่ช่วงนี้จะส่งผลให้ต้นไม้ของเรานั้นเติบโตได้อย่างดีเพราะเป็นแดดอ่อนที่ไม่ได้เป็นพิษต่อการเจริญเติบโตหรือการสังเคราะห์แสง แน่นอนว่าการปลูกโรงเรือนจึงต้องมีจุดที่คำนวณออกมาแล้วว่าช่วงเวลาเช้าแดดจะส่องถึง และแน่นอนว่ามันจะพ้นแสงยามเที่ยงและบ่ายได้ ด้วยเหตุนี้เองโรงเรือนจึงเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องของการค้นหาจุดกำเนิดแสงเพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเปิดโล่งและให้เกิดการถ่ายเทของอากาศ เพราะการถ่ายเทของอากาศจะส่งผลให้ต้นไม้ของเรานั้นสามารถเติบโตได้อย่างดีไม่แพ้กัน ยิ่งอากาศถ่ายเทมากเท่าไหร่โอกาสที่จะเกิดการสะสมของน้ำและเกิดโรครากเน่าก็น้อยลงเช่นเดียวกัน แล้วสำคัญคือการหลีกเลี่ยงน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะนั่นอาจทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาด้วยนิสัยของแคสตัสแล้วเป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำฉะนั้นโรงเรือนจึงต้องปลอดภัยจากน้ำเช่นเดียวกัน ไม้จะสวยเนื้อผิวต้องดี การจะบอกว่าต้นไม้สวยหรือไม่สวยนั้นดูที่เนื้อผิวเป็นหลักครับ แคตตัสมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกับสัมผัสบริเวณผิวของต้นไม้ ผมต้องบอกเลยว่าจะสวยหรือไม่สวยเราดูที่เนื้อไม้หรือลำต้นครับ โดยปัจจัยที่ส่งผลอย่างมากมีแค่สองส่วนคือส่วนของแสงแดดและสถานที่เพาะปลูก แสงแดดที่มากเกินไปจะทำให้สีของไม่เปลี่ยนเป็นสีที่จางลง แน่นอนว่าสีจางลงมันทำให้สีของต้นไม้ดูไม่สดและมันไม่สวย ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงแสงจัดมากเกินไปและให้แสงที่อ่อนอย่างแสงในช่วงเช้า และอย่างที่สองคือสถานที่ในการเลี้ยง การปลูกแคสตัสกับสถานที่มีผลอย่างมาก หากคุณปลูกแคสตัสและวางกระถางไว้บนดินการเจริญเติบโตของต้นไม้จะดีและสวยงาม กว่าการนำกระถางต้นไม้ไปวางไว้บนปูน จากประสบการณ์มันทำให้สีเนื้อและสีของผิวไม่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยครับ ฉะนั้นแล้วอยากให้พิจารณาในส่วนนี้เพิ่มด้วยหากใครกำลังคิดจะเลี้ยงแคตตัสจำนวนมากอยู่สถานที่ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน เลี้ยงแบบธรรมชาติมากที่สุดไม่ควรใช้สารใดๆกับต้นไม้ เรามักจะเคยได้ยินประโยคที่หลายคนมักจะพูดกันว่าปล่อยให้ทุกสิ่งเติบโตไปอยากเป็นธรรมชาติ ประโยคนี้ผมเชื่อว่ามันทำให้หลายคนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างกับสัจธรรมในชีวิต และแน่นอนมันถูกผูกโยงเข้ากับต้นไม้แบบที่ไม่ต้องคาดเดาเลยครับ เพราะเมื่อพูดถึงธรรมชาติต้นไม้คือสิ่งแรกที่เราทุกคนนึกถึง การที่เรานั้นปลูกต้นไม้สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือการปล่อยให้ต้นไม้ได้เติบโตตามธรรมชาติ แม้จะเกิดอุปสรรคต่างๆมากมายเกิดขึ้นกับตัวต้นไม้แต่การจัดสถานที่บรรยากาศรวมถึงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับตัวของต้นไม้ก็ช่วยให้ต้นไม้นั้นสามารถผ่านวิกฤตเหล่านั้นที่เกิดกับต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือการติดต่อสิ่งต่างๆที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้เอง ก็สามารถผ่านไปได้แน่นอน สิ่งที่ผมอยากจะบอกอีกอย่างหนึ่งคือ การใช้สารเคมีท้ายที่สุดแล้วไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลยแต่มันกลับทำให้ต้นไม้แย่ลงในทุกกรณี และสารเคมีเหล่านั้นก็จะซึมไปสู่รากและขึ้นไปสู่ลำต้นจนสุดท้ายต้นไม้ก็จะสุขภาพไม่ดีและอาจนำไปสู่การตายลงได้นั่นเอง ดังนั้นการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติและเราควบคุมปัจจัยแวดล้อมต่างๆให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ต้นไม้นั้นสวยขึ้นแบบไม่พึ่งยานั่นเองครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 3 […]
วิธีการผสมดินที่ง่ายที่สุดสำหรับแคตตัสที่คุณก็ทำเองได้ไม่ต้องใช้เงินเยอะ

ใครที่ได้ติดตามเรามาสักระยะคุณจะเริ่มรู้ว่าการผสมดินเป็นเรื่องสำคัญและแน่นอนว่ามันอยู่ไหนสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่เราต้องเรียนรู้หากเราอยากปลูกต้นแคสตัสให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและไม่ตายลงเสียก่อน การผสมดินย่อมมีค่าใช้จ่ายแต่จะสูงหรือจะต่ำ ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์รวมถึงสิ่งต่างๆที่คุณพยายามหามา ซึ่งการผสมดินที่ง่ายที่สุดสำหรับต้นแคสตัสเป็นวิธีที่ต้องบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ ก็พอจะมีอยู่บ้างครับซึ่งวิธีนี้เองเรียกได้ว่ามีความน่าสนใจและเป็นวิธีที่ผมเชื่อว่าใครหลายคนเมื่อได้ดูแล้วจะต้องไปผสมดินด้วยวิธีนี้แน่นอน การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องของความพอเพียงและความสนุกรวมไปถึงงานอดิเรกแล้ววิธีใดก็ตามไม่ทำให้การปลูกต้นไม้นั้นง่ายและดีวิธีนั้นย่อมส่งผลให้การปลูกต้นไม้ของเรานั้นมีความยากมากขึ้นแน่นอนครับ ซึ่งวันนี้ผมก็ได้นำวิธีการผสมดินที่ง่ายที่สุดและผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะทำเองได้แม้ไม่มีอุปกรณ์ใดๆเพราะทุกอย่างที่ผมจะพูดถึงนี้มันอยู่รอบตัวของคุณทั้งหมดคุณสามารถหยิบจับสิ่งเหล่านั้นจากรอบตัวคุณโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกได้เลยครับ แล้ววันนี้จะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจผมจะพาทุกคนไปดูกันครับใน วิธีการผสมดินที่ง่ายที่สุดสำหรับแคตตัสที่คุณก็ทำเองได้ไม่ต้องใช้เงินเยอะ จะมีขั้นตอนไหนบ้างแล้วต้องเตรียมอะไรบ้างเราไปดูกันเลยครับ วัสดุและอุปกรณ์ที่คุณต้องเตรียม วัสดุและอุปกรณ์ที่ควรต้องเตรียมเมื่อคุณอยากจะผสมดินแคตตัสแบบง่ายที่สุดที่คุณจะทำได้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นครับซึ่งอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้และย้ำแล้วย้ำอีกว่ามันหาง่ายมาก อย่างแรกเลยครับคือกะละมัง เป็นของใช้ภายในบ้านทั่วไปที่ผมเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีสิ่งนี้เพราะมันคือภาชนะในการรองน้ำที่มีความแข็งแรงและทนทาน เราจะใช้เป็นภาชนะในการเก็บดินเพื่อไม่ให้หกเลอะเทอะบริเวณพื้นที่ สิ่งต่อมาที่ต้องเตรียมคือดินก้ามปูหรือดินถุงทั่วไปครับ ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเลยซึ่งราคาไม่แพงและผมเชื่อว่าคุณยอมจ่ายแน่นอนเมื่อเห็นราคา ต่อมาครับคือทรายก่อสร้างทั่วไปเป็นสิ่งที่ต้องมีและค่อนข้างสำคัญในวิธีการปลูกที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ภาชนะอีกอย่างคือตะกร้าที่มีรูเพื่อใช้ในการร่อนดินสามารถใช้แบบไหนก็ได้ สุดท้ายที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือปุ๋ยที่ใช้ในการปลูกแคสตัสและเพิ่มสารอาหารให้กับต้นไม้ เพียงเท่านี้คุณก็ได้วัสดุอุปกรณ์ครบแล้วครับเห็นไหมครับอย่างที่ผมบอกเลยว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่รอบตัวและราคาถูกมาก บางอย่างเรียกว่าไม่ต้องใช้เงินเลย ขั้นตอนและวิธีการ ขั้นแรกให้เราเทดินที่เราซื้อมาลงไปในภาชนะซึ่งก็คือกะละมังที่เราได้เตรียมไว้ จากนั้นให้เราสำรวจดินโดยการจับดินขึ้นมาดูส่วนไหนที่เป็นก่อนให้เราบีบให้ดินนั้นแตกออกเพื่อให้ง่ายต่อการปลูกเพราะดินที่เป็นก่อนหมายความว่าดินนั้นมีความชื้นซึ่งต้นแคสตัสอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วครับว่าไม่ชอบความชื้นอย่างมากฉะนั้นเราต้องบีบออกหรือแยกดินที่เป็นก่อนออกจากกันก่อนจากนั้นใช้ตะกร้าลอนดินและนำดินที่เป็นก้อนขนาดใหญ่ออกซึ่งอาจรวมถึงหินด้วยก็เป็นได้ คือการนำทรายก่อสร้างที่มีอยู่ทั่วไปมาผสมเข้ากับดินและคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันหรือเราอาจจะสังเกตได้ว่าเนื้อดินนั้นละเอียดและร่วนซุย ปริมาณที่ควรใส่ไม่ได้มีตายตัวแต่ควรอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าดินที่ใช้ในการปลูก ข้อดีของการใช้สายคือจะช่วยให้ดินก้อนใหญ่นั้นไม่เกาะตัวกันเพราะมีชั้นของเม็ดทรายขนาดเล็กแทรกตัวอยู่ในระหว่างดิน จากนั้นผสมให้เข้ากันและนำปุ๋ยใส่ลงไป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้ดินในการปลูกต้นไม้ได้แล้วครับ วิธีการนี้เหมาะกับการปลูกแบบไหน การใช้วิธีการผสมดินรูปแบบนี้อาจจะดูเป็นงานหยาบและไม่ละเอียดเมื่อเทียบกับการผสมดินที่เราเคยพูดถึงกันมาก่อน แต่วิธีนี้จะช่วยให้หน้าดินจัดการต้นแคสตัสได้ในปริมาณที่มากกว่าปกติในระยะเวลาอันสั้น ลองคิดดูนะครับว่าถ้าเราจะต้องมาสร้างลำดับชั้นดินกับต้นไม้จำนวนมากคงเสียเวลามากแน่นอน และถ้าหากคุณเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่ปลูกต้นไม้จำนวนมหาศาลคุณต้องใช้เวลากี่วันในการจัดการกับสิ่งนี้อย่างการแบ่งหน้าดิน ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดและได้ผลใกล้เคียงกัน วิธีนี้ก็คงช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ ในระยะยาวเมื่อมีการเปลี่ยนดินคุณอาจจะทยอยที่จะเปลี่ยนดินให้ถูกสูตรหรือวางลำดับชั้นของดินให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดสารอาหารและการอมน้ำที่มากเกินไปนั่นเอง นอกจากนี้การผสมดินแบบนี้จะช่วยให้เรานั้นสามารถจัดการกับการอมน้ำในหน้าดินได้อย่างดีเลยเพราะจะทำให้ชั้นดินแยกออกจากกันแน่นอนว่าเมื่อน้ำซึมเข้ามาก็จะผ่านออกไปและถูกระบายออกอย่างรวดเร็วอีกทั้งไม่ช่วยให้สะสมซึ่งหลายคนอาจใช้การผสมหินหรือดินภูเขาไฟเข้าไปร่วมด้วยเพื่อให้เกิดชั้นระหว่างดินมากขึ้นก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับกับการปลูกแคสตัสจำนวนมาก เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ วิธีการผสมดินที่ง่ายที่สุดสำหรับแคตตัสที่คุณก็ทำเองได้ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ที่ผมได้นำมาฝากกันในวันนี้ขอบอกเลยครับว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่น่าสนใจมากและมันเป็นหนึ่งในการดูแลต้นไม้ที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยเพราะการดูแลและแตะเริ่มต้นจะส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว หลายคนที่ใช้วิธีการผสมดินธรรมดาลงไปโดยไม่แบ่งชั้นดินหรือไม่ให้มีหินหรือทรายเข้าไปแทรกในระหว่างดินท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้ต้นไม้ตายได้ฉะนั้นแล้วถ้าคุณไม่อยากยุ่งยากการใช้วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เพิ่มขั้นตอนและกระบวนการมาเพียงแค่นิดเดียวเองครับ แต่ผลลัพธ์น่าพึงพอใจอย่างมากแน่นอน แนะนำเว็บ : Bkkcar4cash รับจำนำรถ