เคยสงสัยกันหรือไม่แคคตัสทำไมถึงไม่มีใบ การที่แคคตัสไม่มีใบจะสังเคราะห์แสงได้อย่างไรและหาอาหารจากที่ไหน ทำไมแคคตัสถึงมีหนาม แคคตัสใช้หนามทำอะไรนอกจากที่เราคิดเอาเองไว้เอาไว้ป้องกันอันตรายจากสัตว์ แท้จริงแล้วมีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้หนามแหลมคมเหล่านั้น วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน ทางเข้า ufabet
หนามคือใบของแคคตัส
ใบของพืชทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสง แลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำ (Transpiration) การคายน้ำของพืชช่วยการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากสารละลายในดิน ผ่านเนื้อเยื่อ ลำเลียงจากรากสู่ใบ โดยพืชจะคายน้ำในรูปของไอน้ำผ่านทางปากใบ (Stomata)
กระบองเพชร ซึ่งส่วนใหญ่มีถิ่นอาศัยอยู่ในสภาพร้อนแห้งแล้งอย่างในทะเลทราย จำเป็นต้องเก็บกักน้ำไว้ลำต้นเพื่อใช้ในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งการคายน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำในลำต้นไม่เพียงพอ กระบองเพชรจึงวิวัฒนาการปรับสภาพของตนเอง โดยลดรูปใบเปลี่ยนเป็นหนาม เพื่อลดการคายน้ำ เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่แห้งแล้งและฝนไม่ตกเป็นเวลานาน ๆ
กระบองเพชรสังเคราะห์แสงได้อย่างไรเมื่อไม่มีใบ
ใบของต้นไม้ทั่วไปจะมีสีเขียว ซึ่งมีส่วนประกอบที่เรียกว่าคลอโรพลาสต์ (Chloroplast) ภายในมีสารสี (Pigment) ที่มีขนาดเล็กสีเขียวเรียกกว่า คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) โดยคลอโดพลาสต์ จะช่วยในการสังเคราะห์แสง เพื่อสร้างอาหารหรือน้ำตาลที่เป็นแหล่งพลังงานให้แก่พืชในการดำรงชีวิต
แต่กระบองเพชรไม่มีใบ คลอโรพลาสต์ที่ทำหน้าที่สังเคราะห์แสงในกระบองเพชรอยู่ที่ลำต้นซึ่งปกติจะมีสีเขียว แต่กระบองเพชรจำพวกไม้ด่าง ซึ่งลำต้นจะมีสีอื่น ๆ เฃ่นสีเหลือง แดง ส้ม ชมพู จะสังเคราะห์แสงได้น้อยกว่า จึงทำให้โตช้ากว่ากระบองเพชรทั่วไป (ไม่ด่าง)
Gymnocalicium Hihanovichii Variegata
ส่วนกระบองเพชรที่ไม่มีสีเขียวที่ลำต้นเลย เช่น ยิมโนหัวสี ไม่สามารถสังเคราะห์แสงเองได้ จึงต้องขยายพันธุ์ด้วยการกราฟ
เนื่องจากไม่มีใบ จะรู้ได้อย่างไรว่าแคคตัสที่เราเลี้ยงเติบโตดีหรือไม่
หนามบนยอดเจริญเติบโตดี แปลว่ารากแข็งแรง และลำต้นสมบูรณ์
สำหรับพืชทั่วไปที่มีใบ เราจะสังเกตได้ง่ายว่าเติบโตดีหรือไม่ โดยดูจากการเจริญเติบโตของต้นและใบ เช่น ถ้าใบซบลู่ลงแปลว่าขาดน้ำ ถ้าใบไหม้แปลว่าว่าดินแฉะ รากเน่า หรือไหม้แดด
แต่กระบองเพชร ไม่มีใบ ซ้ำกระบองเพชรเป็นไม้ที่โตช้า บางชนิดกว่าจะเห็นความแตกต่างรอกันเป็นปี ดังนั้นเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแคคตัสของเราแข็งแรงดีและเติบโตขึ้นหรือไม่ ให้สังเกตจากหนามบนยอด แคคตัสที่แข็งแรง รากสมบูรณ์หาอาหารเก่ง นอกจากจะดูจากผิวของต้นสีเขียวเป็นมันและมีการเติบโตจากเดิมแล้ว สังเกตจากหนามบนยอดก็สามารถบอกได้ ถ้าหนามบนยอดดูสมบูรณ์สดใสแข็งแรง แสดงว่ารากเดินดีและแคคตัสเจริญเติบโตได้ดี
ตุ่มหนาม (Alero) เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของกระบองเพชร
หนามของแคคตัส จะเกิดอยู่บริเวณที่เรียกว่า ตุ่มหนาม (Alero) ไม้ชนิดอื่นๆ ถึงแม้จะมีหนามแต่จะไม่มีตุ่มหนาม (Alero) เช่น Euphobia ดังนั้นการจะสังเกตไม้ที่มีหนามว่าเป็นกระบองเพชรหรือไม่ ให้ดูที่ตุ่มหนาม
ถังทองหนามสั้น
ตุ่มหนามของถังทอง เรียงอยู่บนสันพู บริเวณตุ่มหนามมีขนนุ่มฟูกระจายอยู่รอบ ๆ
หนามของแคคตัสมีความหลากหลายและสวยงามเป็นเอกลักษณ์
แคคตัสมีหนามที่หลากหลายทั้งขนาด รูปร่าง สีสันและรูปทรง นอกจานั้น ลักษณะของหนามที่เกิดบนตุ่มหนาม (Alero) ยังมี 2 แบบ คือ หนามกลาง (Central Spines) มักมีขนาดใหญ่ และหนามรัศมี (Radial Spines) หรือเรียกว่าหนามข้าง กระบองเพชรบางชนิดมีหนามกลางอย่างเดียวไม่มีหนามรัศมี บางชนิดมีหนามกลางมากกว่า 1 อัน บางชนิดไม่มีหนามกลางมีแต่ไม่มีหนามรัศมี บางชนิดมีครบทั้งหนามกลางและหนามรัศมี บางชนิดมีการเรียงตัวลักษณะพิเศษคล้ายซี่หวี (Pecinate)
หนามแคคตัสแบบต่าง ๆ
หนามแข็งตรง
Melocactus
หนามของเมโล มีทั้งหนามกลาง (Central spines) และหนามข้างหรือหนามรัศมี (Radials Spines) ซึ่งหนามกลางมี 1 หนาม เป็นหนามแข็งตรง ส่วนหนามข้างเป็นหนามแข็งเหมือนกัน แต่โค้งงอแผ่รัศมีออกด้านข้างแนบไปกับลำต้น
หนามโค้งงอ
Matukana Madisoniorum
หนามของ Matukana มีเฉพาะหนามข้างหรือหนามรัศมี โค้งงอออกด้านข้าง ไม่มีหนามกลาง
หนามบิดเกลียว
www.llifle.com/Encyclopedia/CACTI
หนามของถังทองหนามบิด มีทั้งหนามกลางและหนามข้างหรือหนามรัศมี ทุกหนามจะมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ๆ และบิดเป็นเกลียวจนคลุมรอบต้น
หนามเล็กตรงและเป็นตะขอที่ปลาย
Mammillaria Boscasana (แมมขนแมว)
แมมขนแมว มีหนาม 2 แบบในต้นเดียว คือหนามที่ลักษณะเป็นขนสีขาวเหมือนขนของสัตว์ (ขนแมว) และมีหนามเล็กเส้นตรงแต่ปลายเป็นตะขอ
หนามบางคล้ายกระดาษ
แคคตัสหนามกระดาษ Opuntia articalata
www.facebook.com/ThanadonSapcharoen
หนามเป็นเส้นคล้ายเส้นผม
Mammillaria Luai
Mammillaria Laui หรือแมมเลาอาย เป็นเส้นเล็กบางและยาวตรงคล้ายเส้นผม
หนามเป็นปุยนุ่ม ลักษณะคล้ายขนสัตว์ชนิดต่าง ๆ
Mammillaria Prumosa (แมมขนนกขาว)
Mammillaria Plumosa หรือแมมขนนกขาว มีหนามเป็นปุยสีขาวคล้ายขนนก
หนามแบบอื่น ๆ
Gymnocalicium Bruchii
Bruchii มีหนามรัศมีแผ่ออกด้านข้างแนบไปกับลำต้น ไม่มีหนามกลาง
Lobivia
หนามของ Lobivia มีหนามกลางและหนามข้างมีขนาดเล็กสั้น
หนามรัศมีแผ่ออกด้านข้าง
Mammillaria Candida
หนามรัศมีเป็นเส้นเล็กบางหลายเส้นแผ่ออกด้านข้างแนบไปกับลำต้น
จนเหมือนสานกันจนปิดรอบต้นไว้จนมิด
Candida มีหนามกลางที่เป็นเส้นเล็กแต่สั้น ทำให้เวลาที่จับต้นของ Candida
ถึงแม้หนามจะไม่แหลมแทงนิ้วมือ แต่หนามก็แข็งสั้น
Mammillaria Lenta
เลนต้ามีหนามรัศมีเป็นเส้นเล็กบางหลายเส้นแผ่ออกด้านข้างแนบไปกับลำต้น
จนเหมือนสานกันปิดรอบต้นไว้มิด เนื่องจากไม่มีหนามกลาง
ทำให้เราสามารถจับต้นของ เลนต้าได้โดยไม่โดนหนามตำมือ
Mammilaria Microthele (แมมนกฮูก)
หนามเป็นเส้นเล็กสั้นๆ หนามกลางตั้งตรง ส่วนหนามรัศมีหรือหนามข้างแผ่ออกด้านข้าง
Parodia Leninghausii (กระบองทอง)
หนามกลางและหนามรัศมีเป็นเส้นบางยาวสีทอง
Parodia Magnifica (กลีบมะเฟือง)
หนามเป็นขนบางเบาสั้น ๆ เรียงตัวเป็นเส้นอยู่บนสันพู
Browningia Hertlingiana
Browningia Hertlingiana มีหนามกลางที่แข็งและยาวกว่าหนามอื่นๆ
และหนามรัศที่มีขนาดเล็กกว่า กระจายออกในทิศทางต่าง ๆ
Mammillaria Nivosa แมมเข็มทองหรือแมมหนามทอง
หนามยาวตรงสีเหลืองทอง มีทั้งหนามกลางและหนามรัศมี
แมมชนิดนี้มีปุยสีขาวอยู่ที่โคนเนินหนามเหมือนปุยหิมะ
ไม้อวบน้ำบางชนิดไม่มีหนามแต่จัดเป็นไม้ในกลุ่มกระบองเพชร
แคคตัสบางชนิดไม่มีหนาม แต่ก็จัดอยู่ในสกุล Cataceae หรือเป็นแคคตัสชนิดหนึ่ง ได้แก่ Lophophola (โลโฟ) Astrophytum Asterias (แอสโตรไฟตั้มแอสทีเรียส)
Lophophola
โลโฟ แคคตัสไม่มีหนาม เป็นไม้สุดโปรดของหลาย ๆ คน
เพราะนอกจากไม่มีหนามแล้ว ตัวยังนุ่มนิ่ม จับได้สบายมือ และมีดอกสวยงามน่ารัก
(อ่าน สายพันธุ์ Lophophola)
Astrophytum Asterias
แอสโตรไฟตั้ม แคคตัสอีกชนิดหนึ่งที่ไม่มีหนาม มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความสวยงามหลากหลาย
(อ่าน แคคตัสไร้หนาม Astrophytum Asterias)
Credit : www.blockdit.com
ขอบคุณสมาชิกหมายเลข 1904888 Pantip.com กระทู้ ว่าด้วยเรื่องหนาม ๆ ต้นไม้
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ