ช่วงนี้เทรนด์การเลี้ยงต้นไม้เริ่มมาแรงอีกแล้วครับ เพราะผู้คนต่างกำลังหาต้นไม้ที่ตนเองชอบมาเลี้ยง แน่นอนครับว่าแคคตัสคือหนึ่งในนั้น แคตตัสคือต้นไม้ที่มีขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง บ้านเราได้รับความนิยมมากในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่ทุกต้นที่ได้รับความนิยม เพราะโดยส่วนใหญ่การเลี้ยงแคคตัสจะเป็นการเลี้ยงเพื่อปลูกไว้ประดับบ้าน ทำให้รูปแบบการเลี้ยงแตกต่างจากที่อื่น หากไม่ใช่คนทำฟาร์ม ไม่มีใครเลยที่จะมานั่งขุดหลุมใส่ดิน ให้วุ่นวายมากขึ้น นั่นเป็นเพราะ ต้นไม้เหล่านี้ถูกใส่ไว้ในกระถางตั้งแต่วันที่เราซื้อมาแล้ว เรื่องง่ายมากครับทีแคคตัสที่เราเลี้ยงไม่จำเป็นต้องใช้ดินใหม่ แต่ก็อยากให้รู้กันครับว่าในการเลี้ยงแคตตัส มีปัจจัยหลายอย่างไม่ต่างจากต้นไม้อื่นเลย ถึงแม้การเปลี่ยนดินจะไม่จำเป็น แต่ก็สำคัญและควรทำอยู่ในระดับนึงเลยครับ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าดินที่ได้มาจากร้านเป็นดินอะไร และถ้าหากดินนั้นไม่ดีไม่เหมาะสมกับต้นไม้ ก็จะส่งผลให้ต้นไม้ต้นนั้นอาจป่วยและตายลงได้เลย ฉะนั้นวันนี้ผมจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับต้นแคสตัสที่คุณไม่ควรมองข้าม กับเรื่องราวของดิน แหล่งสารอาหารหลักของต้นไม้ในกระถาง และคำถามที่ว่าทำไมทุกครั้งที่ซื้อต้นไม้จึงต้องเปลี่ยนดินเสมอใน เรื่องดินๆ ในการเลี้ยงแคตตัสที่คุณไม่ควรมองข้าม
อย่าใช้ดินโคลนปลูกแคคตัส

หากคุณเลือกที่จะใช้ดินสักประเภทหนึ่งในการปลูกแคคตัส คุณต้องรู้จักลักษณะนิสัยของต้นไม้ก่อน เพราะดินคือแหล่งสะสมสารอาหารชั้นดี อีกทั้งดินแต่ละชนิดก็ยังมีลักษณะการอุ้มน้ำที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การปลูกแคคตัสนั้นเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากคุณรู้จักดินมากพอ นั่นเพราะแคตตัสแต่ละต้นหากปลูกดีก็จะช่วยให้เติบโตไว และอาจส่งผลให้ออกดอกเร็วขึ้น แต่หากคุณไม่ได้ดูแลอย่างดี ต้นไม้ก็จะออกดอกช้าหรืออาจป่วยได้ โดยทั้งหมดนี้เริ่มต้นมาจากเพียงแค่ดินที่ใช้ในการปลูก เพราะดินคือแหล่งสารอาหารที่จำเป็น ควรเป็นดินร่วน หรือดินเฉพาะสำหรับการปลูก แต่ไม่ควรเป็นดินโคลน เพราะดินประเภทนี้มีลักษณะการอุ้มน้ำที่ค่อนข้างสูง ไม่มีการระบาย รวมไปถึงอาจส่งผลให้เกิดภาวะรากเน่าในต้นไม้ได้เลย อย่าคิดว่าเป็นดินอะไรก็ได้นะครับ
อะไรคือดินภูเขาไฟ

เดินไปร้านขายต้นไม้เรามักจะเห็นคำว่าดินภูเขาไฟอยู่เสมอ พอลองไปถามกับเจ้าของร้านขายดูถึงแม้เข้าใจว่าทำไมการปลูกแคคตัสถึงต้องใช้ดินภูเขาไฟ นั่นเป็นเพราะหดินภูเขาไฟเป็นดินที่มีสารอาหารค่อนข้างครบถ้วน เวลาปลูกหลายคนมักผสมดินภูเขาไฟไปในดินธรรมดาเพื่อให้สารอาหารที่จำเป็นกับต้นไม้ แต่ให้ไปทั้งหมดก็คงไม่ดี เพราะดินชนิดนี้มีความเป็นเบสค่อนข้างสูง หลายคนจึงเลือกที่จะผสมกับดินธรรมดา ข้อดีอีกอย่างของเบลเชสนี่คือทำให้ดินนั้นร่วนซุยไม่เกาะตัวระบายน้ำได้ดีลดสาเหตุของการเกิดโรครากเน่าในต้นไม้แต่อย่างไรก็ตามดินภูเขาไฟก็ยังคงไม่เป็นที่รู้จัก นั่นอาจจะเป็นเพราะชื่อที่เข้าถึงยากและหลายคนไม่รู้จัก ทำให้ดินชนิดนี้รู้จักกันอยู่ในเพียงแค่วงของกลุ่มคนเลี้ยงแคตตัสเท่านั้น
เลี้ยงแคคตัสให้ดีต้องมีปุ๋ย

รู้หรือไม่ครับว่าเรื่องของปุ๋ยเนี่ย เป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามเลย หลายคนบอกว่าแค่เลี้ยงต้นไม้ปลูกใส่ดินก็พอแล้วแต่ในความเป็นจริงแค่นั้นไม่เพียงพอกับความต้องการของต้นไม้ครับ เพราะจริงอยู่ที่ต้นไม้นั้นสามารถดูดกลืนสารอาหารที่อยู่ภายในดินได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ และยิ่งไม่พอเข้าไปอีกหากคุณยังให้ต้นไม้โตมาอย่างสวยงาม เพราะการใส่ปุ๋ยลงในดินจะช่วยให้ต้นไม้ได้แร่ธาตุพิ่มมากขึ้น หากคุณไม่เข้าใจลองคิดถึงเวลาที่เรากินข้าวกินอาหารครบห้าหมู่ แต่ยังคงต้องกินอาหารเสริมเข้าไปเพิ่มด้วย นั่นเพราะเรารู้ว่าถ้าร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างในอาหารที่เรากิน และสารอาหารเหล่านั้นไม่มีอยู่ในอาหาร เราต้องหามาเสริมเพราะจะช่วยให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงขึ้น เช่นเดียวกันกับปุ๋ยครับเพราะสารอาหารทั่วไปไม่เพียงพอ ยิ่งหากคุณต้องการเร่งการเติบโตหรือ เร่งให้เกิดการออกดอกออกผลได้แล้ว การหาปุ๋ยมาใช้ก็เป็นเรื่องดี แต่ก่อนจะใช้ต้องทำความรู้จักกับปุ๋ยให้ดีซะก่อนว่าปุ๋ยชนิดไหนเหมาะกับอะไร และที่สำคัญอย่าใช้ปุ๋ยผิดประเภท เพราะไม่ใช่ว่าจะเป็นต้นไม้ไหนก็ได้ ถ้าใช้ปุ๋ยแบบเดียวกันได้
เหตุผลที่ได้ต้นไม้มาใหม่ต้องเปลี่ยนดิน

เรารู้กันดีอยู่แล้วครับว่าเวลาได้รับต้นไม้มาใหม่ต้นไม้จะถูกจัดอยู่ในกระถางและโรยด้วยหินสีเพิ่มความสวยงาม แต่เราไม่มีทางรู้เลยครับว่าต้นไม้เหล่านั้นถูกปลูกเลี้ยงด้วยดินแบบไหน บางต้นบางกระถางอาจเป็นดินที่ดีได้คุณภาพเหมาะกับแคคตัส แต่เราเองก็ไม่รู้เลยว่าต้นไม้ที่เหลือเหล่านั้นถูกปลูกด้วยดินชนิดเดียวกันหรือเปล่า เพราะบางร้านอาจใช้วิธีการตัดต้นทุนในการใช้ดินจากธรรมชาติ ซึ่งถ้าหากมีปุ๋ยก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่มีนี่คือหน้าที่เราที่ต้องไปจัดการเพิ่ม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ เรื่องดินๆ ในการเลี้ยงแคตตัสที่คุณไม่ควรมองข้าม ที่เราได้นำมาเสนอให้ทุกคนทราบในวันนี้ เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวไม่ว่าคุณจะเลี้ยงต้นไม้ชนิดไหนก็ตามเรื่องเหล่านี้มีให้เราเห็นทุกที่ และแน่นอนครับว่า เรื่องของต้นไม้โดยเฉพาะกับแคตตัส ยังคงมีอะไรให้เราได้ศึกษาและเรียนรู้อีกเยอะ หากคุณอยากเป็นนักเลี้ยงแคตตัสตัวจริงอย่าลืมมาติดตามเราไว้นะคะ