การปลูกต้นไม้ไม่ใช่เพียงแค่การนำต้นไม้ใส่ลงในกระถาง แล้วนำดินกลบทับลงไป แต่กลับมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดอีกมากมายเลยครับ เรื่องในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับ เกี่ยวกับการปลูกต้นแคคตัส คุณอาจไม่รู้ว่าแคคตัสมีวิธีการปลูกที่เรียบง่ายและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างมาก ในการดูแล ซึ่งนั่นหมายถึงความไม่ยากเกินไปสำหรับการปลูกต้นไม้สายพันธุ์นี้ การดูแลเบื้องต้นคือสิ่งที่หลายคนต้องทำความเข้าใจ ตั้งแต่ในเรื่องของการวางแผนปลูกต้นไม้ การเลือกสายพันธุ์ไปจนถึงการดูแลรักษาต้นไม้ให้เติบโตได้อย่างดี ซึ่งวันนี้ผมมีเคล็ดลับในการดูแลต้นไม้หนามพวกนี้มาฝากกันอีกแล้วครับ ซึ่งเนื้อหาในวันนี้จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิธีการดูแลเป็นหลัก ดังนั้นแล้วใครที่อยากทำให้การเลี้ยงและการดูแลต้นแคคตัสง่ายยิ่งขึ้น ห้ามพลาดเรื่องราวที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ได้เลยครับในบทความ เคล็ดไม่ลับในการปลูกแคคตัสที่คุณอาจไม่เคยรู้
เรื่องของน้ำ
คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำคือสารอาหารที่สำคัญที่เป็นสิ่งที่ทำให้ต้นไม้ทุกต้นเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนครับว่า ต้นไม้แต่ละต้นมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป อย่างต้นไม้ที่เราจะพูดถึงวันนี้คือแคคตัส หนึ่งในไม้ที่มีถิ่นกำเนิดของสายพันธุ์มาจากทะเลทรายสุดแสนจะแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต การที่จำกัดความต้องการน้ำไว้ จึงเป็นเรื่องที่แคคตัสนั้นต้องทำ และนั่นคือการวิวัฒนาการของต้นไม้ที่ตัดกิ่ง และใบออก เหลือเพียงแค่หนามที่ไม่ได้ต้องการการเจริญเติบโตจากสารอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนของรากที่ปรับเปลี่ยนการรับน้ำลง ให้น้ำในปริมาณที่น้อยลง เรื่องของน้ำจึงเป็นตัวเด่น และตัวสำคัญในการทำงานของราก ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้นทำให้การรดน้ำแคคตัส ต้องมีการจำกัดปริมาณหากรดน้ำมากไป จะทำให้ต้นไม้ตายได้นั่นเอง
เรื่องของแสง
เรื่องแสงถือได้ว่าสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในการเลี้ยงต้นแคคตัส เพราะเป็นต้นไม้ที่ต้องการ การดูแลที่สูงอย่างมาก การดูแลถือได้ว่าเป็นการเลี้ยงต้นไม้ที่อาจแตกต่างจากต้นปกติทั่วไป เพราะนอกจากจะไม่ชอบน้ำแล้ว ยังชื่นชอบแสงแดด ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่อันตรายต่อต้นไม้ เพราะการอยู่ต่อแสงในระยะเวลาที่มากเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้ต้นไม้ของเรานั้นเกิดการไหม้จากแดดที่ร้อนแรงได้นั่นเอง แต่สำหรับแคคตัส อาจจะต้องบอกว่าสามารถอยู่ในที่ร้อน และพื้นที่มีอุณหภูมิสูงได้ดีเลยครับ เพราะโดยปกติแล้ว แคคตัสจะต้องการแสงที่ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และนั่นก็ทำให้ต้นไม้ของเราสามารถอยู่ได้แทบจะในทุกพื้นที่ของประเทศไทย แต่ก็ควรระวังในเรื่องของการเลี้ยงแคคตัสกลางแดดที่แรงมากเกินไป อาจทำให้ต้นไม้เกิดอาการแก่แดดได้นั่นเอง
เลือกดินต้องผสมกับทราย
อาจฟังดูแปลกๆ ใช่ไหมครับ ทำไมต้องเลือกดิน ผสมกับทรายด้วย ทั้งที่ต้นไม้ของเรานั้นดูยังไงก็ไม่น่าจะมีปัญหาได้กับดินทั่วไป ขอแค่มีสารอาหารก็เพียงพอ ใช่แล้วครับ สำหรับต้นไม้ทั่วไปนั่นชุดความคิดนี้ถือได้ว่าถูกต้อง แต่สำหรับแคคตัสแล้วถือได้ว่าผิดโดยสิ้นเชิงเลย จากหัวข้อที่ผ่านมาที่ผมได้บอกเรื่องของน้ำไปแล้วว่าแคคตัสของเรานั้นจะมีพฤติกรรมเกี่ยวกับน้ำที่แปลกออกไป น้ำเยอะไม่ชอบ และแน่นอนว่าดินที่อมน้ำมากเกินไปต้นไม้เองก็ไม่ชอบเช่นเดียวกัน หากลองคิดดูให้ดีเรื่องของแคคตัสมีจุดน่าสนใจอยู่หนึ่งอย่างครับนั่นคือเรื่องของต้นกำเนิดของสายพันธุ์ที่อยู่ตามทะเลทราย เราจะสังเกตว่าดินในแถบนั้นที่เป็นแหล่งอาหารจะมีคุณสมบัติหนึ่งคือคุณสมบัติของการระบายน้ำที่ดี ด้วยคุณสมบัตินี้เอง ก็ทำให้แคคตัสของเรานั้นเติบโตได้ตามธรรมชาติ ดังนั้นแล้ว หากคุณเลี้ยงต้นแคคตัสการผสมดินคือการเลือกดินที่มีความโปร่งสูงมากๆ อย่างดินก้ามปู ไปผสมกับทราย เพื่อให้ต้นไม้นั้นออกไม่โดนความชื้นที่มากเกินไป การมีทรายจะช่วยแยกการยึดติดกันของดินเหนียวที่อาจเกิดขึ้นได้ในชั้นดินของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุของการนำไปสู่การเกิดโรครากเน่านั่นเอง
ปุ๋ยสำคัญรองจากการดูแลน้ำและแสง
หลายคนมักบอกว่าเลี้ยงไป ใส่ปุ๋ยไป เดี๋ยวก็โต ในความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้เลยครับ ปุ๋ยที่มากเกินไปก็ส่งผลให้ต้นไม้ของเรานั้นได้รับสารอาหารที่มากเกิน จนอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต หรือตายได้เลย ดังนั้นคุควรใส่ปุ๋ยสำหรับต้นแคคตัส และปุ๋ยที่หาได้ง่ายที่สุด ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ และมีสารอาหารที่จำเป็นจริงสำหรับแคคตัส คือการผสมดินเข้ากับหินภูเขาไฟ สิ่งนี้เองจะช่วยให้แคคตัสของเรานั้นได้รับสารอาหารที่จำเป็นและไม่ต้องเสี่ยงลำต้นขึ้นผิดรูปจากการให้สารอาหารที่มากเกินไปอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ เคล็ดไม่ลับในการปลูกแคคตัสที่คุณอาจไม่เคยรู้ ที่ผมได้นำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้ เรื่องของการปลูกแคคตัสสำหรับมือใหม่ยังมีอีกมากมาย หากใครที่ชื่นชอบบทความดีๆ แบบนี้ และอยากรู้จักแคคตัสให้มากขึ้นกว่านี้ ขอแนะนำให้คุณเข้ามาอ่านบทความที่เว็บไซต์ของเรา เรามีบทความดีๆ ใหม่ๆ ให้คุณได้อ่านกันทุกสัปดาห์แน่นอน