รู้หรือไม่ครับว่าโรคร้ายในต้นแคคตัส ที่มักจะสร้างความปวดหัวและน่ารำคาญใจให้กับผู้เลี้ยงอย่างเราอยู่เสมอ โดยโรคเหล่านี้มักจะเกิดจากเชื้อราแมลงหรือศัตรูพืช แต่โรคที่เราจะพูดถึงในวันนี้เป็นกลุ่มที่ไม่มีต้นตอสาเหตุที่ชัดเจน หรืออาจจะต้องบอกว่าระบุสาเหตุไม่ได้ซึ่งถ้าเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่ทำได้คือการยอมจำนนและปล่อยให้ต้นไม้ต้นนั้นตายลงอย่างง่ายดาย  ด้วยเหตุนี้เองสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำมากที่สุดคือการสังเกตต้นไม้ให้ดีครับ ไม่ว่าจะเกิดอาการผิดปกติอย่างไรก็ตามถ้าต้นไม่หยุดชะงักการเติบโต หรือมีสภาพผิดปกติภายนอกให้เราเห็นให้เราเดาได้เลยว่าต้นไม้เหล่านี้ กำลังเข้าสู่วิกฤติอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพูดถึงอาการยอดแห้งในต้นแคคตัส ซึ่งถือเป็น หนึ่ง ในอาการที่หาได้ยากและเมื่อเกิดขึ้นแล้วแทบจะหาต้นตอของปัญหาไม่ได้เลยครับ วันนี้ผมเลยจะนำเรื่องราวเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้ดูกัน มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ และมีอะไรบ้างที่คุณควรรู้ เราจะพาทุกคนไปดูกันครับใน ส่องอาการยอดแห้ง อาการสุดฮิตที่เกิดกับต้นแคคตัส

ลักษณะภายนอกของอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด

ลักษณะภายนอกของอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด

เมื่อเกิดอาการรากแห้งกับต้นแคคตัส สิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องทำมากที่สุดคือการตรวจเช็คทุกองค์ประกอบและทุกส่วนของลำต้น จุดแรกที่เราจะต้องมองให้เห็นคือบริเวณปลายหนามโดยยอดของหนาม ที่จะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และขยายมาเรื่อยๆในขณะที่เชื้อโรคกำลังแพร่กระจายจนเข้าสู่บริเวณของลำต้น จากนั้นเชื้อโรคแบบนี้ก็จะแพร่กระจายตัวจากบริเวณส่วนปลายของลำต้นออกเป็นวงกลมขนาดใหญ่และกินพื้นที่ สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ในระยะเวลานาน นั่นทำให้เราไม่มีทางรู้เลยว่าต้นไม้กำลังเกิดอาการอะไรแต่อาการต่อไปที่เราต้องระวังและเมื่อเกิดขึ้นแล้วคุณจะทำอะไรไม่ได้เลยนั่นคือการลามเข้าสู่แกนกลางของลำต้นด้านใน  ตลอดการแพร่กระจายพันธุ์หรืออาการเราจะไม่สังเกตเห็นถึงรอยยุ่ย การเปียกน้ำ อาการชื้นของต้นไม้เลย สิ่งที่เราจะ สามารถสังเกตได้คือเรื่องของการแห้งตายลงไปอย่างช้าๆของต้นไม้ แล้วต้องบอกตรงนี้แล้วว่าเมื่อเกิดอาการนี้แล้วน้อยคนมากครับที่จะสังเกตและรู้วิธีรับมือ ส่วนใหญ่รู้ตัวอีกทีคือต้นไม้โดนกินไปแล้วกว่าครึ่งต้นและไม่สามารถยื้อชีวิตของต้นไม้ไว้ได้

ทำไมถึงระบุที่มาของโรคนี้ไม่ได้

ทำไมถึงระบุที่มาของโรคนี้ไม่ได้

หลายคนอาจจะสงสัยในตอนต้นที่เราบอกกันว่าต้นไม้สายพันธุ์นี้ไม่สามารถระบุที่มาหรือการแพร่กระจายขยายพันธุ์ของเชื้อโรคได้ เคยมีคนตั้งข้อสังเกตและพยายามน้ำศาลต่างๆลุยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เกาะอยู่บริเวณต้นไม้ไปวิเคราะห์ ก็ไม่พบเห็นถึงสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ทุกสิ่งล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กปกติที่อยู่ในต้นไม้ทุกต้น จึงทำให้นักวิจัยหลายคนงงกับเรื่องนี้อย่างมาก และต่อด้วยการวิเคราะห์กลุ่มของศัตรูพืชรวมถึงแมลงต่างๆ ก็ยังคงไม่  สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือโรคนี้อันตรายอย่างมาก จนหลายคนตั้งชื่อให้เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาเลย และการที่ยังค้นหาต้นตอและที่มาของโรคนี้ไม่เจอ นั่นหมายความว่าเรายังไม่เจอวิธีรักษาแบบหายขาดนั่นเองครับ แต่อัตราในการเกิดโรคนี้ก็ถือว่าน้อยมากเช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่สนใจและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิจัยในการค้นหาต่อไปนั่นเอง

การดูแลรักษาเมื่อติดโรค

การดูแลรักษาเมื่อติดโรค

สุดท้ายปลายทางของโรคนี้สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษา ทำอย่างไรให้ต้นไม้ของเรานั้นสามารถอยู่รอดได้และไม่เกิดอันตรายไปมากกว่านี้ ถ้าเราสังเกตให้ดีบริเวณของลำต้นจะมีความพิเศษในเรื่องของ อาการที่ค่อนข้างแนบเนียนและสังเกตไม่ได้เลยด้วยตาเปล่า เพราะปกติแล้วเมื่อต้นไม้เกิดอาการผิดปกติสิ่งที่จะตามมาคืออาการเน่าหรือมีความชื้นเกิดขึ้นจนต้นไม้นั้นล้มลง แต่สำหรับอาการยอดแห่งจะไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากบริเวณของหนาม ซึ่งแน่นอนคำว่าคุณต้องสังเกตให้ดีอย่างมากเพราะเมื่อไรก็ตามที่หนามถูกรอยสีน้ำตาลกินเข้าไปจนสุดถึงลำต้น เมื่อนั่นก็จะทำให้ต้นไม้ของคุณติดโรคได้ในทันที วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือการสังเกตและหักส่วนที่รู้สึกว่าจะมีสีน้ำตาล แต่อย่าที่เรารู้กันดีครับการทำสิ่งนี้ไม่ได้การันตีว่าเราจะไม่ได้พบเจอหรือ ไม่ได้การันตีว่าตนไม่จะติดโรคนี้จริงๆจึงทำให้ต้นแคคตัสที่คาดว่าจะติดก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าสรุปแล้วหนามสีน้ำตาลเกิดจากตัวของต้นไม้เปลี่ยนสายพันธุ์ ปลับตามภูมิอากาศ หรือจะเป็นการติดเชื้อจริงๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ ส่องอาการยอดแห้ง อาการสุดฮิตที่เกิดกับต้นแคคตัส ที่ผมได้นำมาฝากกันในวันนี้ เรื่องนี้จึงเป็นอีก หนึ่ง เรื่องราวที่น่าสนใจแม้จะดูเป็นเรื่องไกลตัวแต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าเกิดขึ้นแล้วควรจะต้องหาวิธีแก้แน่นอน สิ่งที่ผมบอกแล้วตอนนี้หากต้นไม้ของคุณติดโรคนี้แนะนำให้แยกออกไปในพื้นที่จำกัดและดูแลรักษาหรือจัดการการในส่วนที่คาดการณ์ว่าเป็นการแพร่กระจายพันธุ์ของเชื้อโรคออกไป ก็อาจจะทำให้ต้นไม้ของคุณมีชีวิตกลับมาได้ แต่ทั้งหมดที่ผมพูดมาก็เป็นเพียงแค่สมมติฐานนะครับ สุดท้ายแล้วถ้าจำใจต้องทิ้งก็ต้องทิ้ง เพราะป้องกันการติดต่อไปสู่ต้นไม้อื่นๆจนเกิดความเสียหายในวงกว้างได้นั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *