การปลูกต้นไม้เรื่องดินเป็นเรื่องสำคัญและถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่มากไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดไหนก็ตาม ซึ่งวันนี้ต้นไม้ที่เราได้นำมาพูดถึงกันยังคงอยู่ไหนเรื่องของแคตตัสกันอยู่ ใกล้ปลูกแคสตัสเป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจให้มากเพราะถึงแม้ต้นไม้จะมีความแข็งแรงมากแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วต้นไม้เหล่านี้ก็ยังมีสิ่งที่ต้องการและหากเราไม่สามารถให้สิ่งเหล่านั้นกับต้นไม้ได้ก็จะส่งผลทำให้เกิด การตายลงของต้นไม้นั่นเอง ซึ่งการตายลงของต้นไม้นี้หากให้พูดตามตรงเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก ลองคิดดูนะครับว่าต้นไม้ที่ขึ้นชื่อว่าตายยากต้องมาตายเพราะการเลี้ยงของเราแสดงว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ซึ่งวันนี้ผมจะมาเจาะลึกในหนึ่งเรื่องที่ทำให้ต้นไม้ตายนั่นคือเรื่องของดิน แน่นอนครับว่าเราไม่ได้มาบอกว่าดินแบบไหนทำให้ต้นไม้ตายแต่เราจะมาให้สูตรพิเศษในการจัดการดินที่นอกจากต้นไม้จะไม่ตายแล้วยังเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย สูตรนี้สามารถใช้ได้กับหลากหลายชนิด เพราะเป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเพื่อให้ดินมีความร่วนซุยเป็นพิเศษ ไม่เกาะกันเป็นก้อน และไม่ส่งผลต่อการถูกทำลายจากภายใน ซึ่งนั่นเองคือสิ่งที่เราได้นำมาฝากวันนี้ครับ และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักให้มากขึ้นกับการปลูกแคสตัสที่เรียได้ว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับคนที่อยากปลูกแคสตัสให้เจริญงอกงามต้องไม่พลาดบทความนี้กับ สูตรเด็ดจัดการดินให้อยู่หมัด ปลูกแคสตัสไม่มีตาย
ทรายร่อน

ส่วนผสมแรกที่เราจะพูดถึงกันคือทรายร่อน ทรายร่วนเราสามารถหาได้ทั่วไปมีกรรมวิธีในการผลิตที่ไม่ยาก ร่อนเอาทรายละเอียดออกมา วิธีนี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่งเพราะการร่อนจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานและอาจต้องทำมากถึงสามรอบเพื่อให้ได้ทรายที่มีความละเอียดที่สุด เน้นไปที่การระบายน้ำและเว้นช่องว่างของตัวดินไม่ให้เกิดการอุ้มน้ำมากเกินไปและทำให้ดินร่วนซุย
ดินใบก้ามปู

ถัดมาบอกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่หาได้ง่ายและมีขายทั่วไปตามตลาดแถมราคาก็ไม่แพง ดินเหล่านี้จะเป็นดินที่ถูกผสมกับใบก้ามปูออกมาซึ่งแน่นอนว่าสารอาหารมีอย่างครบถ้วนในระดับหนึ่งและดินเหล่านี้มีความร่วนซุย หากใช้ร่วมกับทรายร่วนก็จะทำให้ดินนั้นมีความร่วนมากขึ้นและไม่กักเก็บน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้ทั้งสารอาหารในดินยังมีค่อนข้างมากซึ่งจำเป็นต่อการปลูกแคสตัสที่สุดแล้วครับ
เวอร์มิคิวไลต์

ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตัสเซียม และแมกนีเซียมชั้นดีเลยครับสำหรับเวอร์มิคิวไลต์ โดยหินชนิดนี้จะมีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมสารอาหารต่างๆไว้ด้วยกันและค่อยปล่อยออกมาจนกลายเป็นธาตุอาหารเสริมภายหลัง แน่นอนครับว่าสารอาหารที่ได้จากหินนี้บอกได้คำเดียวว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างมากเพราะส่วนใหญ่แล้วในดินจะขาดแมกนีเซียมกับโปรตัสเซียม และเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตที่ดีและแข็งแรงเหล่าคนในแคตตัสจึงเอาใจใส่หินตัวนี้ลงไปในสระประสงค์ของดินด้วย
ดินญี่ปุ่นชื่อ (อะ-คา-ดา-มะ)

สำหรับตัวต่อมาเป็นดินจากประเทศญี่ปุ่น ดินนี้อาจดูไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากแต่ภายในได้กักเก็บสารอาหารบางอย่างและมักจะใช้ดินนี้ในการโรยลงไปบนหน้าดินโดยจุดประสงค์มีทั้งหมดสองแบบ อย่างแรกคือช่วยให้การปลูกแคตตัสของเรามีความสวยงามมากขึ้น เพราะถูกตกแต่งไปด้วยดินและหินหลากสีทำให้ต้นไม้มีความสวยงามแม้อยู่ในกระถางก็ตาม อย่างที่สองดินตัวนี้จะช่วยในการปล่อยธาตุอาหารลงไปพร้อมกับน้ำเมื่อเราลดต้นไม้และนั่นเองเป็นการเพิ่มสารอาหารบนหน้าดินซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของต้นไม้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนเลือกจะใช้ดินตัวนี้ในการโปรยลงไป
หินภูเขาไฟ

หินภูเขาไฟหรือดินภูเขาไฟเป็นสิ่งที่อยู่กับเหล่าคนปลูกแคสตัสมาตลอดเวลา และหินเหล่านี้เองก็เป็นหินที่มีลักษณะพรุนแตกอยู่ในตัวอยู่แล้วทำให้การระบายน้ำนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ดีไม่กล้าปลูกแคสตัสหลายคนจึงมักจะผสมหินเหล่านี้ลงไปในดินเพื่อให้เกิดช่องว่างภายในดิน เวลาที่เรารดน้ำลงไปน้ำที่ซึมผ่านหินภูเขาไฟก็จะไม่กักเก็บแต่จะปล่อยธาตุอาหารออกมาแทนและธาตุอาหารเหล่านั้นก็จะออกไปสู้ดินที่ใช้ในการปลูกทำให้ดินใหม่เกาะเป็นก้อนและยังช่วยให้ดินนั้นแตกตัวออกจากกันรวมถึงเพิ่มสารอาหารในดินอีกด้วย
สตาร์เกิลจีหรือไดโนทีฟูแรน

อีกหนึ่งสารที่ชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักแต่ในการปลูกแคสตัสเรียกได้ว่าจำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับแคสตัสที่ต้องการความโปร่งโล่งสบายของดิน เพราะดินที่ใช้อยู่นั้นมีหลายส่วนเลยครับที่พอพูดถึงการระบายน้ำแล้วไปต่อไม่ได้ ที่ใช้ดินทั่วไปเวลารดน้ำน้ำก็ไม่ทะลุออกด้านล่างหมายความว่าดินได้กักเก็บน้ำไว้จนกลายเป็นการสะสมความอับชื้นจนเกิดรากเน่า ซึ่งตัวนี้เองที่จะช่วยให้ดินปรับคุณสมบัติของตัวเองจากที่มีการกักเก็บสูงกลายเป็นมีการระบายของดินและช่องว่างที่ค่อนข้างมากทำให้ดินไม่สะสมและลดโอกาสเกิดรากเน่าได้นั่นเอง
ปุ๋ยละลายช้า

อาจจะงงใช่ไหมครับว่าที่ผ่านมาเราเน้นเรื่องของการระบายน้ำที่ดีแต่ทำไมพอมาถึงปุ๋ยกลับต้องละลายช้า เพราะแน่นอนว่าในปุ๋ยมีสารอาหารและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเติบโตอยู่มากมาย การที่ใช้ปุ๋ยละลายช้าจะช่วยให้สารอาหารภายในปุ๋ยนั้นค่อยๆสุกน้ำผลักออกมาดื่มละลายออกแล้วผสมลงไปในดินแน่นอนว่าส่วนที่เป็นน้ำจำนวนมากก็จะละลายออกไปจากการระบายของดินที่มีความโปร่งแล้วจึงไม่ทำให้เกิดการกักเก็บหรือควบแน่นในน้ำมากเกินไป ปุ๋ยที่เรามักใช้กันจะเป็นสูตรที่เรียกสั้นๆว่า 13-13-13
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ สูตรเด็ดจัดการดินให้อยู่หมัด ปลูกแคสตัสไม่มีตาย ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการทำให้ต้นไม้เติบโตเราจะต้องเตรียมการด้วยการหาอุปกรณ์เหล่านี้มาไว้ก่อนที่จะทำการผสมแน่นอนว่าการผสมเองก็มีขั้นตอนที่หลากหลายมากเช่นกันและในบทความต่อไปเราจะพูดถึงเรื่องของการผสมดินเหล่านี้ก่อนจะนำไปปลูก และหากคุณอยากรู้หรือสนใจเรื่องของการผสมดินต้นไม้ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดในราคาที่ถูกแสนถูกแนะนำให้ติดตามเราไว้ครับเราจะหาบทความดีๆให้คุณได้อ่านอีกแน่นอน