การขยายพันธุ์แคตตัสหรือการเพาะพันธุ์ต้นไม้ในตระกูลแคตตัสเป็นสิ่งที่นักปลูกต้นไม้ทุกคนต้องทำกันครับด้วยเหตุผลที่ว่าเราสามารถขยายพันธุ์โดยไม่ต้องเสียเงินเพียงแค่มีต้นพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์รวมถึงเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ขยายพันธุ์ได้แล้วซึ่งแน่นอนว่ามันมีหลายวิธีมากครับแต่วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงเรื่องของการขยายพันธุ์ต้นไม้ เราจะมาพูดถึงในส่วนของสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการขยายพันธุ์ต้นไม้โดยเฉพาะกับแคสตัส แน่นอนครับว่ามันมีหลายสิ่งที่เราเห็นประโยชน์ทั่วไปแล้วเราคิดว่าเป็นเรื่องปกติแต่คุณเชื่อหรือไม่ครับว่าบางสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องปกติเพียงแต่มันเกิดขึ้นและมันเป็นจุดเด่นของต้นไม้ รวมถึงเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะมีผลดีผลเสีย ประโยชน์หรือโทษมากน้อยแค่ไหน มาดูกันครับ ผมจะพาทุกคนไปดูในโลกของแคสตัสว่ามีสิ่งไหนบ้างที่น่าสนใจกับประเด็นที่จะบอกว่าหากคุณเพาะเมล็ดพันธุ์แคตตัสหรือขยายพันธุ์แคตตัสด้วยวิธีใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับต้นไม้ของคุณก็เป็นได้กับ รวม 4 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในการเพาะแคตตัส
ลักษณะผิดปกติจากการเพาะเมล็ด
สิ่งแรกที่เกิดขึ้นบ่อยมากและแทบจะทุกคนต้องเจอครับสำหรับคนที่ขยายพันธุ์ต้นไม้ด้วยการเพาะเมล็ด นั่นคือการที่คุณนั้นจะได้พบกับต้นไม้ที่มีด่างมีความแตกต่างจากต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เราจะรู้กันดีอยู่แล้วครับว่าต้นด่างสำหรับแคตตัสถือเป็นสิ่งล้ำค่า และแน่นอนว่าสิ่งนี้เองที่ทำให้ต้นแคสตัสนั้นมีความสวยงาม ความแปลกของต้นด่างคือมันเป็นลักษณะของยีนสีที่มีความผิดพลาดและมันจะไม่สามารถเกิดกับทุกต้นได้แน่นอนเพียงแต่จะมีเพียงแค่หนึ่งถึงสองต้นที่มาจากฝักเมล็ดเดียวกันเท่านั้นเองครับที่จะส่งผลให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น นอกจากต้นทางแล้วยังมีอีกหลายอย่างเลยครับที่อาจเป็นลักษณะผิดปกติจากการเพราะเมล็ดอย่างเช่นต้นคริส ที่เป็นลักษณะของการเรียงตัวของเนื้อเยื่อบริเวณยอดทำให้ต้นไม้ดูมีความพิเศษและดูมีรูปแบบการเหวี่ยงตัวของลำต้นที่แตกต่างกันออกไป แต่แน่นอนครับว่าสิ่งเหล่านี้เองก็เป็นเรื่องร้ายในเรื่องดีที่ต้องบอกว่าทำให้ราคาต้นไม้สูงขึ้นแต่ลักษณะเหล่านี้เองก็ทำให้ต้นไม้ดูดีขึ้นไปเท่าตัวเลยครับ
ในการเพาะเมล็ดแต่ละครั้งคุณจะเจอสิ่งที่แตกต่างและต้องเอาออก
สิ่งที่ชัดเจนมากๆในการปลูกแคสตัสไม่ว่าคุณจะใช้ตำราในการปลูกทุกตำราจะบอกเหมือนกันเลยว่าต้นแคสตัสเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ใหม่มีรูปร่างเฉพาะแม้คุณจะปลูกด้วยต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สายพันธุ์เดียวกันที่มีความแข็งแรงมากแต่ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เองเมื่อเกิดมาอาจเปลี่ยนรูปร่างลักษณะออกไป ซึ่งในการปลูกแคสตัสเราจะเรียกสิ่งนี้ว่าการกลายพันธุ์ การกลายพันธุ์นั้นเราจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นต้นที่มีลักษณะเป็นด่าง หรือคริส แน่นอนครับว่ามันไม่ได้ส่งผลร้ายแรงมากขนาดนั้นเพียงแต่สิ่งที่ตามมาและน่ากลัวในช่วงที่ต้นไม้กำลังเติบโตช่วงแรกหรือช่วงที่เราอนุบาลต้นไม้คือต้นไม้เหล่านี้จะแย่งสารอาหารในดินค่อนข้างสูงและรากอาจจะเข้าไปทำลายต้นไม้ต้นอื่นได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อมีการหว่านเมล็ดและพบเจอความแตกต่างเหล่านี้เราจึงควรแยกต้นไม้เหล่านี้ออกไปกระถางส่วนตัวเพื่อป้องกันการแย่งอาหารนั่นเอง
คุณอาจได้รับต้นแฝดซึ่งไม่ต้องตกใจ
หนึ่งในสิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจและมันสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้ชนิดใดก็ตาม คือคุณมีโอกาสได้ต้นไม้ที่ขึ้นคู่กัน หรือเราแยกประมาณลักษณะนี้ว่าต้นฝาแฝด ความน่าสนใจของต้นฝาแฝดคือการที่ต้นไม้ชนิดนี้จะมีเมล็ดพันธุ์เพียงแค่หนึ่งเมล็ดแต่สามารถแตกหน่อได้ถึงสองหน่อ แน่นอนว่ามันอาจไม่ได้ส่งผลทำให้ต้นไม้ของคุณแย่มากขนาดนั้น แต่ก็ต้องบอกกันตามตรงคำว่าการมีต้นไม้สองชนิดอยู่บนรากเดียวมันทำให้การเติบโตช้าลง ซึ่งนั่นเองทำให้ตัวของผู้เลี้ยงหลายคนเลือกที่จะแบ่งต้นไม้ออกโดยการแบ่งจะมีลักษณะอยู่สองแบบคือการแบ่งเพื่อให้สามารถนำต้นไม้สองชนิดนี้ไปปลูกแยกกระถางก็ได้และเติบโตได้ถึงสองต้น หรือหากทั้งสองต้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของสุขภาพ ผู้ใหญ่หลายคนก็เลือกที่จะตัดต้นไม้ต้นหนึ่งทิ้งเพราะการเลี้ยงต้นไม้ที่ไม่แข็งแรงอาจจะทำให้เราเสียต้นทุนในหลายอย่าง แต่ถึงอย่างไรต้นแฝดก็เป็นต้นที่หลายคนตามหา และต้นแฝดเบื้องต้นก็มีมูลค่าสูงเช่นเดียวกัน
อาจมีโรคแทรกซ้อนบางอย่างติดมากับต้นไม้เมื่อโตขึ้น
ต้นไม้ก็เหมือนมนุษย์แหละครับ เมื่อโตขึ้นมักจะมีโรคอะไรตามมา ยิ่งโตขึ้นมายิ่งเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกับแคสตัสที่ไม่ได้ชอบความชื้น ในช่วงหนึ่งถึงหกเดือนเป็นช่วงที่ชัดมีการปรับตัว สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นทั้งในส่วนของเมล็ดและในส่วนของดินที่ปลูก เพราะหากช่วงนี้ต้นไม้มีการติดโรคแล้วการรักษาจะยากมาก ซึ่งมันก็จะส่งผลให้ต้นไม้นั้นไม่แข็งแรงได้ในระยะยาว
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ รวม 4 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในการเพาะแคตตัส ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่เกิดขึ้นได้รอบตัวนั้นจริงๆครับกับการปลูกต้นไม้เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าต้นไม้จะเป็นไปในทิศทางไหนว่าโตขึ้นแต่ถึงจะเป็นความเสี่ยงแต่ผมกลับว่ามันคือความท้าทายแล้วผมเชื่อว่าคนหลายคนแล้วคิดเช่นเดียวกันเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจอแบบไหนจึงเป็นเรื่องน่าสนุกของการเลี้ยงต้นไม้และการได้รอดูการเติบโต