การเพาะพันธุ์แคตตัสผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยผ่านการทำสิ่งนี้มาแล้วครับและมันน่าจะช่วยให้เรานั้นได้เรียนรู้หลายๆอย่างและแน่นอนสิ่งที่ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ได้เรียนรู้และนั่นรวมถึงผมด้วยคงหนีไม่พ้นในเรื่องของการที่ต้นแคตตัสของเรานั้นตาย ซึ่งสาเหตุหลักของการเพาะโดยเฉพาะวิธีการชำหน่ออาจจะต้องบอกว่าหนีไม่พ้นในเรื่องของการที่รากของต้นไม้ไม่ยอมงอกออกมานั่นเอง ดังนั้นปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากครับและเป็นปัญหาแรกที่เราจะเจอเมื่อเราใช้วิธีการนี้ในการเพาะ แต่อย่างไรก็ตามในการใช้วิธีการเดียวกันก็ไม่ได้มีปัญหาเดียวครับที่เกิดขึ้นยังมีอีกหลายปัญหาโดยเฉพาะกับการนำต้นที่เราชำไปปลูกใส่กระถางยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปใหญ่เลยครับสำหรับใครก็ตามที่เคยเลี้ยงต้นไม้แบบนี้มาแล้วคุณน่าจะคุ้นชินกันดี ซึ่งวันนี้ผมมีวิธีและเทคนิคในการที่จะทำให้การชำหน่อง่ายมากขึ้นและทำให้รากนั้นงอกดีมากขึ้นครับโดยเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ค่อนข้างหายากครับและแน่นอนถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่และควรใช้วิธีการนี้ในการขยายพันธุ์ต้นแคสตัสของคุณ ขอแนะนำเลยครับว่าต้องอ่านให้จบแล้วคุณจะได้วิธีการจัดการปัญหาเหล่านี้ได้แน่นอนในบทความ ชำหน่อแคคตัสอย่างไร ให้รากงอกดี ?
ใช้ยาเร่งรากกับต้นแคสตัส
ปัญหาหลักคือการที่รากของต้นไม้ไหมเติบโต หรือไม่งอกออกมา ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วครับว่ารากของต้นไม้นั้นเป็นส่วนที่ใช้ดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ลำต้นและทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตด้วยสารอาหารเหล่านั้นซึ่งแน่นอนว่าต้นไม้จะแข็งแรงไม่อ่อนแอปัจจัยหลักอยู่ที่การดูดซึมสารอาหารภายในดินครับ และปัญหานี้ก็ไม่ใช่เรื่องแก้ได้ง่ายๆเพราะมันมีปัจจัยต่างๆมากมายและคุณจะรู้ได้ยากมากเลยว่าอาการในเกิดจากอาการที่ต้นไม้ขาดสารอาหาร หรืออาการในที่เกิดจากการที่ต้นไม้นั้นมีปัญหาที่ราก วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเพาะพันธุ์แบบชำหน่อ โดยวิธีที่เราจะใช้ในวันนี้เป็นการเร่งล่าและไม่ต้องมาเสี่ยงลุ้นว่ารากนั้นจะเกิดขึ้นกับประมาณของคุณหรือไม่ แต่ก่อนอื่นเลยครับผมอยากให้ทุกคนได้ดูสิ่งที่น่าสนใจอย่างเทคนิคการชำหน่อ ว่าแบบไหนถึงจะพอดี โดยปกติแล้วเรานั้นจะต้องใช้วิธีการเด็ดหน่อที่เกิดใหม่และเราต้องเลือกหน่อที่มีความแข็งแรงเท่านั้น นอกจากนี้สิ่งที่คุณจะต้องจำเพื่อเข้าไปอีกคือการที่เรานั้นจะต้องเด็ดหรือตัดบริเวณโคนให้เสมอกัน และเป็นพื้นเรียบระนาบเดียวกัน เมื่อตัดออกมาแล้วสิ่งที่คุณต้องทำต่อแล้วทุกคนไม่ค่อยได้ทำคือการนำน้ำยาเร่งรากของต้นแคสตัสนั้นมาทานในปริมาณที่พอดี เพราะเมื่อคุณทาน้ำยานี้มาไปแล้วจะทำให้รากนั้นสามารถงอกได้ ความน่าสนใจคือมีครั้งนึงที่ผมลืมที่จะนำต้นแคสตัสทีเด็ดออกมาไปใส่ในดินแต่วันนั้นฝนตกลงมาใส่ต้นแคคตัสที่นอนอยู่ในตะกร้า ทำให้รากนั้นสามารถงอกออกมาได้แม้ไม่มีดินเป็นตัวดึงสารอาหารและดึงรากก็ตาม จึงเป็นเรื่องที่สำคัญครับและหากใครอยากขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ห้ามลืมเด็ดขาดครับกับการใช้น้ำยาตัวนี้ในการเร่งการเติบโตของราก
จัดกระถางและดินให้ระบายน้ำเสมอ
รากที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นโดยปกติแล้วการนำลงดินทันทีโดยไม่รู้ว่าดินนั้นเหมาะสมหรือไม่อาจเสี่ยงทำให้เกิดการเน่าของรากที่เกิดจากการสะสมของความชื้นภายในดิน เพราะต้นแคสตัสไม่ได้ชอบความชื้นขนาดนั้น และที่สำคัญเราควรจัดกระถางและดินให้พอดี โดยสิ่งแรกที่เราต้องดูเลยคือการเลือกขนาดกระถางให้พอดีกับต้นที่เราเลือกครับ เพราะจะทำให้ต้นไม้สามารถยึดกับดินได้ดีหากกระถางใหญ่เกินไป ก็จะทำให้เกิดการล้มได้ง่ายยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าการแบ่งชั้นของกระถางก็สำคัญเช่นกัน ถ้าคุณไม่อยากให้กระถางนั้นอมน้ำมากเกินไปและให้การระบายน้ำที่ดีสิ่งแรกที่คุณควรน้ำใสชั้นใต้สุดคือหินขนาดใหญ่อย่างดินภูเขาไฟ หรือก่อนทานในปริมาณหนึ่งส่วนสามของกระถาง จากนั้นตามด้วยดินปลูกต้นไม้ซึ่งผมแนะนำว่าควรใช้เป็นดินก้ามปูเพราะดินก้ามปูเป็นดินที่มีสารอาหารครบถ้วนอยู่แล้วแต่หากคุณไม่มั่นใจเรื่องสารอาหารและคุณไม่สามารถหาดินก้ามปูได้คุณสามารถใช้ดินอื่นๆได้เช่นกัน แต่คุณอาจจะเพิ่มปุ๋ยสำหรับต้นแคคตัสใส่ลงไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าต้นไม้ของคุณนั้นจะได้รับสารอาหารที่เพียงพออย่างแน่นอน
ให้ต้นไม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีอยู่เสมอ
การชำหน่อหากพูดกันง่ายๆคือการเปลี่ยนที่อยู่ให้กับต้นไม้จากเดิมที่ต้นไม้เจริญเติบโตตามธรรมชาติและขึ้นตามต้นด้วยความแข็งแรง วันหนึ่งเมื่อถูกแยกออกจากต้นหลักแน่นอนว่าภูมิคุ้มกันบางอย่างของต้นไม้ก็จะตกลง เมื่อภูมิคุ้มกันตกลงแล้วสิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือการทำให้ภูมิคุ้มกันหรือสภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นไม่เป็นพิษกับต้นไม้ คุณควรนำต้นไม้ที่ได้รับการเพาะพันธุ์หนีไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและไม่ถูกขยับเขยื้อนมากจนเกินไป อาจจะต้องบอกว่าโรงเรือนคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด และแน่นอนว่าน้ำเองก็เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ต้นไม้ต้องการแต่ระวังนะครับในช่วงแรกของการชำหน่อ ต้นไม้ยังไม่มีรากที่แข็งพอจะยึดลำต้นหากรดน้ำแรงมากเกินไปก็อาจส่งผลให้ต้นไม้นั้นล้มได้เลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความ ชำหน่อแคคตัสอย่างไร ให้รากงอกดี ? เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจครับสำหรับใครที่เลี้ยงแคคตัสในเชิงพาณิชย์ และผมมั่นใจว่าการชำหน่อของคุณน่าจะเคยมีปัญหาให้กับคุณมาแล้วกับเรื่องของรากต้นไม้ที่เกิดช้า อย่างไรก็ตามอยากให้คุณได้ลองใช้วิธีนี้ครับผมเชื่อว่ามันจะทำให้คุณนั้นมั่นใจได้ว่าต้นไม้ของคุณจะเติบโตอย่างแข็งแรงแน่นอน