ลองนึกดูนะครับเวลาที่เรานั้นปลูกต้นไม้อย่างแคคตัส เรามักจะปลูกต้นไม้ลงในกระถาง ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือต้นไม้ของเรานั้นจะโตขึ้น และเรานั้นอาจไม่ไม่สามารถดูแลต้นไม้ให้อยู่ในกระถางต่อไปได้แบบเดิม โดยเฉพาะกับต้นแคคตัสเพราะนี่ถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะแปลกประหลาดมาก เวลาที่เรานั้นตั้งใจจะปลูกต้นไม้สายพันธุ์นี้ให้ขึ้นสวย หรือแม้แต่การขยายพันธุ์เอง เราก็มักจะรู้สึกว่าต้นไม้สายพันธุ์นี้นั้นไม่ตอบโจทย์เรา และที่สำคัญที่สุดต้นไม้สายพันธุ์นี้ คือหนึ่งในต้นไม้ที่เลี้ยงดูตามธรรมชาติได้ดีกว่าการเลี้ยงดูในกระถาง เพราะพื้นเพเดิมของต้นไม้ มาจากทะเลทรายและแหล่งที่มีความร้อนชื้นสูง การให้ต้นไม้ได้พบเจอกับธรรมชาติ จึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำอย่างมากสำหรับใครก็ตามที่อยากเลี้ยงต้นไม้สายพันธุ์นี้ โดยแคคตัสไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตามคุณควรที่จะให้ต้นไม้ได้อยู่ในพื้นที่ธรรมชาติหลังจากโตขึ้นมาในระยะหนึ่ง แต่การจะย้ายเข้ามาอยู่ในธรรมชาติเลยนั้นโดยเฉพาะกับช่วงที่เป็นต้นกล้าเราไม่สามารถที่จะนำต้นไม้ออกมาสู่ธรรมชาติได้ในทันที สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือการทำให้น้องได้ปรับสภาพ ปรับภูมิอากาศ ปรับตัวต่อสิ่งต่างๆ ในระยะเวลาหนึ่งก่อนจะน้ำลงสู่ดิน แล้ววิธีไหนล่ะครับที่จะทำให้เรานั้นสามารถย้ายต้นไม้ได้อย่างปลอดภัยจากที่เคยอยู่ในกระถางหรืออยู่สถานที่ควบคุมอุณหภูมิในห้อง มาสู่ดินจากธรรมชาติในบ้านเรา มาดูกันครับว่ามีปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลต่อสิ่งนี้ในการย้ายแคคตัสไปปลูกในสภาพธรรมชาติต้องทำอย่างไรบ้าง
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนย้ายลงดิน
ส่วนใหญ่แล้วการย้ายต้นแคคตัสไปไว้ในสถานที่ต่างๆ ช่วงที่อันตรายที่สุดคือช่วงที่ยังเป็นต้นกล้าอยู่ครับ เพราะช่วงนี้เองเป็นช่วงที่ต้นไม้ยังคงอ่อนแอและต้องการการพักผ่อน รวมถึงการดูแลที่ค่อนข้างมาก การที่เรานั้นจะย้ายต้นไม้เปลี่ยนอุณหภูมิห้อง เราต้องคิดให้ดีเสียก่อนว่าต้นไม้ของเรานั้นพร้อมหรือยัง และแน่นอนว่ามันมีวิธีที่ทำให้ต้นไม้นั้นปลอดภัยเมื่อย้ายสถานที่ แม้จะเป็นเรื่องสภาพอากาศแต่ต้นแคคตัสก็ถือได้ว่ามีความเปราะบางในเรื่องนี้อยู่พอสมควร สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือเราจะต้องย้ายต้นกล้านั้นมาไว้ในอุณหภูมิห้องที่ไม่เกิน 30 องศา เพราะถือเป็นอุณหภูมิห้องที่ต้นไม้รับได้และอยู่ในเกณฑ์ที่พอดี สิ่งที่เราต้องทำคือเราจะต้องปิดแสงไม่ให้ต้นไม้ได้รับแสงแดด ซึ่งใช้เวลานานกว่าสิบวันในขั้นตอนนี้เพื่อเตรียมย้ายปลูก โดยสิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือเมื่อถึงวันที่ 8 เราจะต้องเปิดฝาขวดเล็กน้อยเพื่อให้ต้นไม้นั้นได้รับแสงหรือปรับตัวเข้ากับแสงและอุณหภูมิรวมถึงความชื้นภายนอก ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญและหลายคนมองข้ามไปจนต้นไม้ช็อกอากาศ และทำให้ต้นไม้ไม่สามารถปรับตัวกับความชื้นสัมพันธ์ในอากาศได้นั่นเอง
การเคลื่อนย้าย
สิ่งสำคัญต่อมาครับเมื่อเราทำการวางแผนจะย้ายต้นไม้ของเราลงสู่ธรรมชาติเราจะต้องมีวิธีการดึงต้นไม้ออกจากกระถางเก่า โดยวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการใช้คีมดึงเบาๆ ให้ตัวรากหลุดออกจากบริเวณดิน ซึ่งส่วนนี้เองเราจะต้องดูให้ดีครับว่ารากของต้นไม้นั้นสะอาดพอหรือยังเพราะอาจมีโรคติดอยู่อย่างเช่นเชื้อรา ซึ่งถือเป็นโรคยอดฮิตและหลายคนก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับโรคเหล่านี้ได้ เมื่อเราทำการย้ายต้นไม้ออกจากกระถางเรียบร้อยแล้วให้ทำการล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วคุณต้องมั่นใจว่าต้นไม้ของคุณนั้นไม่มีเชื้อราอยู่บริเวณราก แต่ถ้าคุณพบเห็นเชื้อราอยู่บริเวณราก คือการตัดแต่งราก และการตัดแต่งรากนี้เองก็จะช่วยให้คุณนั้นสามารถปลูกแคคตัสอย่างปลอดภัย แต่สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือการทำให้บริเวณรากที่ได้ล้างนั้นแห้งลง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในระยะยาว อีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือการนำต้นไม้ลงดินโดยใช้กระถางที่เป็นพลาสติกจะช่วยดูดเอาไอน้ำภายในออกได้ง่ายขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องนำต้นไม้ไปตากในแดดให้แห้ง
ขั้นตอนสุดท้ายในการย้าย
เมื่อทำการย้ายลงกระถางต้นไม้พลาสติกและคุณต้องมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เราได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้ในเรื่องของเชื้อรา ให้คุณรออีกประมาณ 15 ถึง 20 วันโดยจัดระยะของแสงแดดความพอดี โดยแสงแดดที่ต้นไม้ช่วงนี้ชอบจะเป็นแสงแดดที่ต้นแคคตัสไม่ค่อยได้พบเจอเท่าไหร่อย่างการทำให้เกิดแสงแดดรำไรในพื้นที่ ซึ่งแสงแดดรำไรคือการปล่อยให้แสงเพียงเล็กน้อยเล็ดลอดเข้ามาสู่ลำต้น เพราะต้นไม้ยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับแสงแดดที่มีความร้อนสูงโดยตรง การได้รับเพียงไอร้อนเล็กน้อยในระยะเวลานี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และคุณต้องสังเกตให้ดีว่ารากของต้นไม้หรือบริเวณต่างๆ ของลำต้นจะไม่มีการเน่าเกิดขึ้นและถ้าเกิดเหตุการณ์นี้คุณสามารถออกจากลำต้นหลักได้เลย ที่สังเกตแล้วว่าต้นไม้ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ คุณก็สามารถนำต้นไม้ย้ายปลูกในกระถางที่ใหญ่หรือในพื้นดินธรรมชาติได้เลยทันที
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ การย้ายแคคตัสไปปลูกในสภาพธรรมชาติต้องทำอย่างไรบ้าง ที่ผมได้นำมาฝากกันในวันนี้ เรื่องแคคตัสเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่ว่าจะมุมไหนก็ตาม และแน่นอนครับว่าในมุมของผู้เลี้ยงอย่างเรา สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องของการเลี้ยงต้นไม้ให้เติบโตไปในแบบที่ดี ซึ่งต้นไม้ที่เราพูดถึงก็อาจไม่ได้อยู่แค่ต้นแคคตัส เพราะต้นไม้ทุกชนิดมีความสวยงามต่างกันและผมเชื่อว่าคุณเองก็อยากจะเลี้ยงต้นไม้ให้เติบโตในแบบที่สวยงามไม่ว่าจะต้นไหนก็ตามดังนี้คุณควรที่จะศึกษาแล้วทำความรู้จักต้นไม้ให้ดีเหมือนเรื่องที่เรานำมาฝากกันในวันนี้