
ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่ามีการนำแคคตัสเข้ามาปลูกเลี้ยงในบ้านเราตั้งแต่เมื่อใด เดิมนั้นเรารู้จักแคคตัสแค่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่เห็นอยู่ทั่วๆ ไปเช่น ปราสาทนางฟ้าหรือคอนโดนางฟ้า (Cereus Lexagonus) เสมา (Opentia cochenillifera) ดาวล้อมเดือน (Echinopsis calochlora K.Schum) และนิยมเรียกต้นไม้กลุ่มนี้ว่า ตะบองเพชรหรือกระบองเพชร เนื่องจากลักษณะของต้นที่เป็นลำสูงยาวคล้ายกระบองที่มีหนามล้อมรอบ
จาก บทความในจุลสารของชมรมกระบองเพชรแห่งประเทศไทยโดย “กระท่อมลุงจรณ์” กล่าวไว้ว่า “ก่อนปีพ.ศ.2500 แคคตัสได้ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยผู้รักต้นไม้สกุล ‘สมบัติศิริ’ โดยนำมาเผยแพร่ในกลุ่มเพื่อนฝูงด้วยความประทับใจในความประงดงามแปลกตา จึงเริ่มมีการสั่งเข้ามาปลูกเพื่อสะสมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณสมพงษ์ เล็กอารีย์ คุณอารีย์ นาควัชระ และคุณบุษบง มุ่งการดี”
ความนิยมแคคตัสเริ่มแพร่ขยายเป็นวงกว้างทีละเล็กทีละน้อย จนเกิดร้าน ‘471’ ของคุณวาส สังข์สุวรรณ ขึ้นที่สนามหลวง ซึ่งถือว่าเป็นร้านขายแคคตัสโดยตรงเป็นร้านแรกของประเทศ จากนั้นก็มีร้าน ‘ลุงจรณ์’ ตั้งอยู่ริมคลองหลอดเกิดขึ้นตามมา เกิดกลุ่มนักเล่นและนักสะสมแลกเปลี่ยนพันธุ์ไม้ซึ่งกันและกัน โดยมีคุณขจี วสุธาร เป็นนักเล่นคนสำคัญในยุคสมัยนั้นประมาณปีพ.ศ. 2519
มีการสั่งไม้ต่อยอด (Graft) สีแดง ยิมโนด่าง และต้นจากการเพาะเมล็ดชนิดอื่นๆ เข้ามาจากญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้นักเล่นตื่นตัวและให้ความสนใจเรื่องการต่อยอด (Graft) แคคตัสมากขึ้น เริ่มมีการเพาะเมล็ดขยายพันธุ์เองภายในประเทศ เกิดการพัฒนาและผลิตต้นออกสู่ตลาดได้เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มนักเล่น
ในขณะที่ร้านขายแคคตัสใหญ่ๆ ที่น่าสนใจก็เกิดขึ้นตามมาอีกหลายร้าน เช่น ร้านพิศพร้อม ร้านยุทธนาแคคตัส ร้านลินจง เป็นต้น
แคคตัสยังคงได้รับความนิยมเรื่อยมา โดยสังเกตุได้จาก
- มีการสร้าง Geodesic Dome จัดเป็นสวนแคคตัสขึ้นภายในสวนหลวง ร.9 (ปี 2530)
- มีตำราแคคตัสภาษาไทยเล่มแรกโดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน
- มีกลุ่มผู้เลี้ยงและผู้จำหน่ายขยายวงกว้างครอบคลุมไปกว่า 50 จังหวัดของประเทศ
- รวมทั้งมีการพัฒนายกระดับคุณภาพ เกิดพันธุ์ลูกผสมใหม่ๆขึ้นเสมอ
- จนกล่าวได้ว่าแคคตัสเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมาจนทุกวันนี้
Geodesic Dome จัดเป็นสวนแคคตัสขึ้นภายในสวนหลวง ร.9
กระบองเพชรยุคแรก ๆ ในประเทศไทย
เสมาหรือนิ้วมือผี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Opuntia cochenillifera ลำต้นแบนหนา ด้านบนโค้ง ส่วนโคนต้นเรียวกลม มีหนามเป็นจุดๆ เมื่ออ่อนสีเขียว แก่เป็นสีน้ำตาล ใบเดี่ยว ขนาดเล็ก อวบน้ำ เห็นได้เฉพาะกิ่งที่แตกใหม่ พอแก่ใบจะร่วงหมด ดอกเดี่ยว สีแดงอมส้ม ผลเดี่ยวกลม เนื้อนุ่ม แก่แล้วเป็นสีส้มอมแดง มีเกล็ดคล้ายใบอยู่รอบผล ใช้เป็นไม้ประดับ
คอนโดนางฟ้าหรือปราสาทนางฟ้า ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cereus Lexagonus มีฉายาว่า Queen of the night ซึ่งหมายถึงดอกที่จะบานเวลากลางคืน
ลำต้นเป็นทรงยาว มีหนามตามสันของลำต้น ส่วนใหญ่จะมี 4-5 แฉก แต่ถ้าสมบูรณ์มากๆ จะมี 6 แฉก (หายาก) ลำต้นเมื่อมีขนาดเล็ก จะมีสีเขียว แต่ถ้าเจริญเติบโตไปนานๆ สามารถสูงได้เป็นเมตร และจะมีลายที่ลำต้น ดูสวยงามมากกว่าตอนที่ต้นมีขนาดเล็ก ส่วนดอกมีสีขาวนวล ดอกมีขนาดใหญ่ จะบานในช่วงค่ำจนถึงกลางคืน ดูคล้ายๆ กับดอกบัว และอาจจะบานไปจนถึงเวลาเช้า ดอกจะบานเพียงครั้งเดียว
วงการกระบองเพชรในปัจจุบัน
อย่างที่รู้กันว่ากระบองเพชรเป็นพืชพันธ์ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ที่มีภูมิอากาศต่างจากบ้านเรา แต่การนำมาปลูกเลี้ยงในประเทศไทย ผู้เลี้ยงและผู้พัฒนาสายพันธ์ก็ได้คิดปรับปรุงสูตรดินและสภาวะในการปลูกเลี้ยงดูแลจนสามารถเพาะพันธ์แคคตัสได้เอง และสามารถส่งขายทั้งในและต่างประเทศ สังเกตจากมีฟาร์มเพาะพันธ์กระบองเพชรกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศเทศไทย
และจากสถานการณ์โควิด19 ทำให้คนหันมาปลูกต้นไม้กันมากขึ้นเพราะการต้องอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน แคคตัสก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่คนพากันมาสนใจและหามาปลูกเพราะใช้พื้นที่ไม่มาก และเมื่อเรียนรู้วิธีการปลูกเลี้ยงดูแลแล้ว การเลี้ยงกระบองเพชรก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ขายหลายรายจึงเสาะหาสายพันธ์ที่แปลกแตกต่างไปจากสายพันธ์เดิม ๆ มาขาย เป็นโอกาสของผู้เลี้ยง เพราะสามารถหาซื้อสายพันธ์แปลก ๆ สวย ๆ มาเก็บสะสมได้ง่ายกว่าในสมัยก่อน ที่ต้องสั่งเองจากต่างประเทศ หรือต้องสั่งเมล็ดพันธุ์มาทำการเพาะเลี้ยงเอง ซึ่งมีราคาแพงและก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะเพาะไม่ขึ้น
อีกทั้ง ผู้ขายในบ้านเราทั้งหน้าใหม่อายุน้อยและรุ่นครูหลายคน ก็กลายเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ (Breader) สามารถพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่มีความสวยงาม มีรูปทรงและขนาดต่าง ๆ กัน และรวมถึงความหลากหลายของหนาม ความสวยของดอกให้สะสมกันมากขึ้น บางรายก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ผู้เลี้ยงทั่วไปที่เคยเป็นมือใหม่ แต่ปัจจุบันคุ้นเคยกับการปลูกเลี้ยงแคคตัสกันดีแล้ว ก็สามารถที่จะขยายพันธุ์จากการชำหน่อหรือเพาะเมล็ดได้เอง และสามารถที่จะเป็นผู้ขายเองได้ ถึงแม้จะไม่ได้ทำเป็นธุรกิจจริงจัง แต่ก็เป็นงานอดิเรกที่สร้างรายได้เล็ก ๆ เพื่อต่อยอดไปซื้อต้นใหม่ ๆ มาเลี้ยง เป็นการขยายความสุขเพิ่มขึ้นของผู้เลี้ยงไม้หนาม
Credit : pantip.com, th.wikipedia.org, www.prbangkok.com
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า